ท่องเที่ยวอเมริกาใต้ เกาะอีสเตอร์ Easter Island ชิลี เกาะอีสเตอร์ หรือที่รู้จักในชื่อว่า “สะดือของโลก” เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ที่เก็บสะสมซากประวัติศาสตร์ และอารายธรรมเอาไว้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เช่น รูปปั้นโมอาย ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์กว่า 600 ตัว เป็นฝีมือของชาวโปลินีเซียที่เคยอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้เมื่อ 1,000 กว่าปีที่แล้ว!!
ธรรมชาติบนพื้นที่ของเกาะแห่งนี้ยังดูอุดมสมบูรณ์ นอกจากการมาเยี่ยมชมถ่ายรูปกับโมอายแล้ว ยังเช่าจักรยานปั่นเที่ยวรอบเกาะ เอ็นจอยกับการดำน้ำตื้น และเล่นเซิร์ฟได้ด้วย
เกาะอีสเตอร์ (Easter Island) หรือ ราปานุย (Rapa Nui) ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของคาบมหาสมุทรแปซิฟิก อยู่ห่างออกไปประมาณ 3,700 กิโลเมตรจากประเทศชิลี ลักษณะของเกาะอีสเตอร์มีรูปทรงเป็นพื้นที่สามเหลี่ยม ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 600 เมตร เกาะนี้เป็นที่รู้จักในชื่อว่า “สะดือของโลก”
ที่นี่เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง อุทยานแห่งชาติราปานุยเป็นเหมือนอาคารกลางแจ้งขนาดกว้างที่ได้เก็บสะสมซากประวัติศาสตร์ และอารายธรรมเอาไว้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ หนึ่งในคอลเลคชั่นของสะสมของเกาะแห่งนี้คือ รูปปั้นโมอาย (Moai) รูปปั้นหินที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ และมีส่วนหัวขนาดใหญ่ราวกว่า 600 ตัว ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเกาะอีสเตอร์ เป็นหนึ่งสิ่งที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวของสถานที่แห่งนี้ได้ว่า เกาะแห่งนี้เคยมีผู้อยู่อาศัย โมอายเป็นรูปปั้นที่แกะสลักด้วยหินขนาดใหญ่เพียงก้อนเดียว แต่ละตัวจะมีลักษณะไม่แตกต่างกันมาก นอกจากบางตัวนั้นถูกแกะสลักให้มีหมวกอยู่บนหัว และบางตัวจะนอนล้มอยู่กับพื้น สันนิษฐานว่าผลงานเล่านี้เป็นฝีมือของชาวโปลินีเซียที่เคยอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้เมื่อ 1,000 กว่าปีที่แล้ว
เกาะอีสเตอร์นั้นยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกด้วย การท่องเที่ยวแบบ Eco-Friendly นั้น ทำให้ธรรมชาติบนพื้นที่ของเกาะแห่งนี้ยังดูอุดมสมบรูณ์ นอกจากการมาเยี่ยมชมถ่ายรูปกับโมอายแล้ว เราสามารถเช่าจักรยานปั่นเที่ยวรอบเกาะ เอ็นจอยกับการดำน้ำตื้น และเล่นเซิร์ฟได้อีกด้วย
ส่วนรูปปั้นยักษ์แกะสลักเป็นหน้าคน โมอาย (Moai) ที่เรียกได้ว่าเป็นพระเอกตัวจริงของที่นี่ เชื่อกันว่าเป็นผลงานของชาว โพลีนีเซียน (Polynesian) ที่เข้ามาปกครองเกาะนี้ในช่วงปี 1250 จำนวนของรูปปั้นนั้นกระจายอยู่ทั่วทั้งเกาะประมาณ 887 ตัว รวมทั้งตัวที่ยังแกะสลักไม่เสร็จ และเสียหายระหว่างการขนย้ายด้วย บางตัวมีแค่ส่วนหัว บ้างก็มีส่วนลำตัวที่ส่วนใหญ่ถูกฝังอยู่ใต้ดิน ขนาดของตัวโมอายที่ใหญ่ที่สุดนั้นสูงถึง 30 ฟุต (ประมาณ 10 เมตร) น้ำหนัก 82 ตัน
ที่สำคัญคือโมอายเกือบทั้งหมดถูกแกะสลักออกมาจากหินก้อนเดียวกัน ออกมาจากเหมืองหิน ราโน ราราคู (Rano Raraku) แกะสลักโดยใช้หินภูเขาไฟซึ่งมีความแข็ง และคมกว่าหินในเหมืองหิน ภายในยังมีโมอายอีกหลายชิ้นที่ยังอยู่ในกระบวนการแกะสลัก ราวกับว่าเหมืองถูกทิ้งร้างไปแบบกระทันหัน
โมอายบางตัวจะมีหมวกสีแดงที่เรียกว่า พูคาโอ (Pukao) เป็นชิ้นต่างหากบนหัว ประดับส่วนลูกตาด้วยปะการังขาวแกะสลัก เชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์แทนเทพเจ้า หรือหัวหน้าเผ่าผู้ล่วงลับไปแล้ว หรือผู้ที่มีความสำคัญในสมัยนั้น