ตรัมตอนพาส จุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามราวกับภาพวาดบนยอดเขาฟานซิปันที่สูงที่สุดในเวียดนาม

ตรัมตอนพาสเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองซาปา ประเทศเวียดนามและเป็นที่รู้จักกันในชื่อประตูสวรรค์ เนื่องจากเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในเวียดนาม ตั้งอยู่บนความสูง 1,900 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลบนยอดเขาฟานซิปันซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในคาบสมุทรอินโดจีน จึงมีอากาศเย็นสบาย อากาศบริสุทธิ์บนภูเขาและทัศนียภาพอันน่าประทับใจของเทือกเขาหว่างเหลียนเซิน

จุดเด่นของ Tram Ton Pass
ทัศนียภาพที่งดงาม: สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามาของภูเขา สลับซับซ้อนและนาขั้นบันไดที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่อากาศดี คุณอาจจะได้เห็นทะเลหมอกที่สวยงามราวกับภาพวาด
จุดถ่ายรูปยอดนิยม: เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเพื่อเก็บภาพความประทับใจกับวิวภูเขาและสายหมอก
เส้นทางขับรถชมวิว: เป็นเส้นทางขับรถที่สวยงาม โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการขับรถชมวิว (Road Trip)

กิจกรรมที่น่าสนใจ
ชมวิวและถ่ายรูป: กิจกรรมหลักที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ทำคือการชมวิวที่สวยงามและถ่ายรูปกับทิวทัศน์อันน่าทึ่ง

แวะชมน้ำตก: เส้นทางไป Tram Ton Pass มีน้ำตกที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น น้ำตกซิลเวอร์ (Silver Waterfall) และน้ำตกเลิฟ (Love Waterfall) ซึ่งเป็นจุดแวะพักยอดนิยม

เดินป่าและปีนเขา: สำหรับนักท่องเที่ยวสายผจญภัย Tram Ton Pass ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินป่าเพื่อพิชิตยอดเขาฟานซิปัน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ท้าทาย

ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก: ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการมาเที่ยวคือตอนเช้าตรู่หรือช่วงบ่ายแก่ๆ เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ซึ่งจะทำให้ได้ภาพที่สวยงามเป็นพิเศษ

เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)อากาศดี ดอกไม้บาน และท้องฟ้าแจ่มใส
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน):เหมาะสำหรับการเดินป่าและชมทิวทัศน์ภูเขาอันสวยงาม
ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์):อากาศหนาวเย็นและมีหมอก แต่ให้บรรยากาศที่ลึกลับและมหัศจรรย์
ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) :เขียวขจีร่มรื่น แม้ว่าฝนที่ตกเป็นครั้งคราวอาจทำให้ถนนลื่นได้

การเดินทาง
Tram Ton Pass ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองซาปาประมาณ 15 กิโลเมตร การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือการเช่ารถมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์ส่วนตัวพร้อมคนขับ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถแวะชมสถานที่ต่างๆ ระหว่างทางได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ยังมีบริการรถแท็กซี่จากตัวเมืองซาปาอีกด้วย

ข้อแนะนำ:
สภาพอากาศในซาปาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศก่อนเดินทาง
เส้นทางขึ้นเขาค่อนข้างคดเคี้ยวและชัน ควรใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ หากไม่มีประสบการณ์การขับขี่บนเส้นทางภูเขามาก่อน แนะนำให้ใช้บริการรถแท็กซี่หรือรถยนต์พร้อมคนขับจะปลอดภัยกว่า
หากต้องการ “ล่าหมอก” หรือ “Cloud-hunting” ควรเดินทางมาในช่วงเช้าตรู่ เนื่องจากมีโอกาสเจอทะเลหมอกมากที่สุด

เส้นทาง Tram Ton Pass ไม่ได้เป็นเพียงเส้นทางเดียว แต่เป็นประสบการณ์การเดินทางอันน่าจดจำที่เผยให้เห็นความงามอันบริสุทธิ์ของเวียดนามตอนเหนือ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักผจญภัย ผู้รักธรรมชาติ หรือเพียงแค่ผู้ที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายสู่ขุนเขา เส้นทางนี้พร้อมมอบประสบการณ์การเดินทางที่เต็มไปด้วยทัศนียภาพอันน่าทึ่งและความทรงจำอันไม่รู้ลืม