ช่วงนี้ก็เป็นฤดูฝนที่หลายคนอาจจะไม่อยากออกไปไหน เพราะอะไรหลายอย่างที่เป็นปัจจัยในการสร้างความลำบากจนไม่อยากที่จะออกจากบ้าน แต่ว่าวันนี้อยากจะเสนอสถานที่ที่ควรออกไปเที่ยวในช่วงหน้าฝนแบบนี้ เพราะเราจะได้สัมผัสกับธรรมชาติในมุมใหม่ นั่นก็คือการไปเที่ยวภูเขา
หลายคนอาจจะยังนึกภาพไม่ออกว่าไปเที่ยวภูเขาหรือป่าในช่วงหน้าฝนแบบนี้จะลำบากกว่าเดิมหรือเปล่า จริงๆก็ใช่แหละค่ะ ใครจะชอบความชื้นแฉะ เพราะฉะนั้นก่อนเดินทางขึ้นเขาควรเตรียมตัวให้พร้อมทั้งสภาพร่างกาย จิตใจ
และที่สำคัญควรเตรียมยาไว้ด้วยเพราะช่วงหน้าฝนไม่ใช่แค่เราที่ชอบเที่ยว แต่ยังมีน้องๆสัตว์ป่าอีกหลายชนิดที่ชอบความชุ่มชื้นนี้พากันออกมาปาร์ตี้และอาจจะเกิดอันตรายกับเราก็ได้ แต่ว่าประสบการณ์ในการไปเที่ยวที่เราไป เขาไม่ไปในครั้งนี้ จะเปิดประสบการณ์ให้กับคุณแน่นนอน เพราะฉะนั้นเรามาแนะนำ 5 สถานที่เที่ยวภูเขาที่เราควรไปไว้ให้แล้วค่ะ
เริ่มกันที่แหล่งสูดอากาศบริสุทธิ์ ใกล้กรุงเทพฯ นิดเดียวอย่าง “เขาใหญ่” ที่ครอบคลุม 4 จังหวัด คือ จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครนายกค่ะ ที่นี่แม้เป็นฤดูฝน แต่สภาพป่าก็ชุ่มฉ่ำ ป่าไม้ทุ่งหญ้าเขียวขจีสดสวย มีที่เที่ยวมากมาย น้ำตกทุกแห่งไหลแรงเพราะมีน้ำมาเติมเต็ม ทำให้เวลาเดินในป่ามีชีวิตชีวาแก่นักท่องเที่ยวมากๆ ทีเดียวค่ะ
แถมเขาใหญ่ยังมีที่พักให้เลือกหลากหลาย มีให้ตั้งแต่แบบอยากใกล้ชิดธรรมชาติไปจนถึงกินหรูอยู่สบาย เลือกได้เลย เหมาะกับชาวกรุงที่อาจจะไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนนานๆ การเดินทางไปเขาใหญ่จึงเหมาะสมเพราะใช้เวลาจากกรุงเทพเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น
เลยจาก เขาใหญ่ มาไม่ไกล อีกหนึ่งที่น่าเที่ยวในช่วงหน้าฝนแบบนี้ก็คือ “วังน้ำเขียว” ที่นี่ได้ชื่อว่า “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” อีกทั้งยังเป็น ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ อีกด้วย เพราะฉะนั้นในวันหยุดสั้นๆ แค่ เสาร์-อาทิตย์ ก็มาเที่ยววังน้ำเขียวได้ ที่เที่ยวในวังน้ำเขียว จะเป็นทั้งที่เที่ยวธรรมชาติอย่าง ผาเก็บตะวัน น้ำตกม่านฟ้า อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง และที่เที่ยวชิลๆ ชิคๆ ที่ไปถ่ายรูปสวยๆ กันได้ทั้งครอบครัวอย่าง Village Farm & Winery ฟ้าประทาน โรส พาร์ค หรือ วังน้ำเขียวฟาร์ม แต่ละที่นี่เรียกได้ว่า ต้นไม้ต้นหญ้าชูชันชื่นบานรอต้อนรับนักเที่ยวที่มาเยือนวังน้ำเขียว
5 ภูเขาในฤดูฝนที่เราควรไปเที่ยว
จากเขาใหญ่ ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตที่ใช้เวลาไม่มาก อย่าง “เขาค้อ” ที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งในช่วงหน้าฝนนี้ค่ะ เพราะว่ามีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี แม้แต่ในฤดูร้อน อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี เพียง 18-25 องศาเซลเซียสเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปเที่ยวแค่ช่วงหน้าหนาวก็ได้ บอกเลยหน้าฝนก็สวยไม่แพ้กัน อีกทั้งเขาค้อยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้ได้มาพักผ่อนอย่าง เขาย่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของ พระตำหนักเขาค้อ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งชมทะเลหมอกที่สวยมากแห่งหนึ่ง แค่ลองนึกว่าเรากำลังนั่งปิ้งหมูกะทะที่ริมเขาฝนตกน้อยๆ อากาศเย็นๆ แค่นี้ก็ถือว่าเป็นวันพักผ่อนที่ดีทีเดียว
ขยับมาอีกนิด แต่ยังไม่ต้องหนีออกจาเพชรบูรณ์ นั่นก็คืออุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ซึ่งจะเป็นอีกฟีลหนึ่งของการเดินเที่ยวในป่า ความแปลกตาของป่าผืนนี้คือ ป่าสน ที่อายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี ทำให้ต้นสนที่นี่สูงลิบตา 30-40 เมตร เรียงรายตัดกับพื้นหญ้าเขียวขจีบนภูเขาเพชรบูรณ์ที่สลับซับซ้อน ผสมกับอากาศหนาวเย็นปกคลุมตลอดปี ชวนให้นักท่องเที่ยวเร่งฝีเท้าเข้ารับความสดชื่นในป่าผืนนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่รู้เบื่อ
ทิ้งท้ายอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตั้งครอบคลุมพื้นที่รอยต่อของสองจังหวัด คือ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลกค่ะ ในหน้าฝนนั้นเส้นทางที่เดินไปยังจุดท่องเที่ยวต่างๆ ทั้ง ลานหินปุ่ม ผาชูธง หรือ ลานหินแตก จะเต็มไปด้วยความเขียวชะอุ่มของมอสสีเขียวสดตัดกับแนวพื้นหิน สายถ่ายภาพแบบมาโครน่าจะชื่นชอบกับการเดินป่าไปก้มถ่ายต้อนมอส ใบเฟิร์นหลากหลายสายพันธุ์ในป่าแห่งนี้