สัมผัสกับอากาศหนาวส่งท้ายปี ท่องเที่ยวเมืองเหนือ ทำงานเหนื่อยหนักกันมาทั้งปี ถึงเวลาวางงานไปสัมผัสกับอากาศหนาวส่งท้ายปีกันบ้างดีกว่า เตรียมเสื้อกันหนาวตัวหนาๆ แพ็คลงกระเป๋าแล้วตามเรามาเพราะนี่คือสถานที่ท่องเที่ยวที่รับประกันว่าขึ้นไปแล้วจะได้เจอกับอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียสโดยที่ไม่ต้องข้ามพรมแดนประเทศ
ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน
แค่เห็นชื่อก็โรแมนติกแล้ว ดอยเสมอดาวมีเสน่ห์ไม่ว่าในยามพระอาทิตย์ขึ้นในม่านทะเลหมอก หรือในตอนค่ำที่ดวงดาวพร่างพราวให้เห็นเต็มตาก็ตาม แม้จะอยู่ในแนวสันเขาที่มีความสูงไม่มากนัก สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 888 เมตร แต่สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้เกิน 180 องศาเลยทีเดียว ไม่ว่าจะฤดูไหน ยอดดอยเสมอดาวก็จะมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ยิ่งในฤดูหนาวแบบนี้อุณหภูมิอาจลดลงไปเหลือเพียงเลขตัวเดียว และเพราะสถานที่สำหรับกางเต้นท์เป็นลานโล่งกว้างจึงทำให้สามารถรับลมได้จากทุกทิศทาง การันตีความเย็นยะเยือกเลยล่ะ
ภูลังกา จังหวัดพะเยา
ในเมื่อตอนนี้เชียงรายสถานที่ยอดฮิตอาจทำให้หลายคนรู้สึกไม่ปลอดภัยนัก เพราะข่าวการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ไม่เป็นไร ขยับลงมาที่พะเยากันสักหน่อย วนอุทยานภูลังกาเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดของจังหวัด ต้องไม่พลาดไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้าบนดอยภูลังกา ด้านทิศตะวันออกเป็นหน้าผาสูง มีหญ้าเขียวปกคลุม และมีลมพัดแรง จากตรงนี้สามารถมองเห็นประเทศเพื่อนบ้านอย่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้ด้วย ความน่าสนใจไม่ได้มีแค่ดอยภูลังกาเท่านั้น แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ เช่น ทุ่งดอกโคลงเคลงบานสะพรั่ง น้ำตกภูลังกาที่มีเพียง 2 ชั้นแต่เย็นฉ่ำใจ ลานหินล้านปี หรือป่าก่อโบราณที่เต็มไปด้วยพันธุ์พืช ดอกไม้ป่า กล้วยไม้ป่า และนกนานาชนิด
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก
บนภูหินร่องกล้ามีอากาศคล้ายภูกระดึงและภูหลวงที่อากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปีโดยเฉพาะฤดูหนาว อุณหภูมิอาจลดต่ำลงถึงประมาณ 4 องศาเซลเซียสได้เลย ความน่าสนใจของที่นี่แบ่งออกเป็น 2 มิติ เพราะอุทยานทางประวัติศาสตร์ที่มีสภาพทางธรรมชาติแปลกตาจากที่อื่น ยังมีคุณค่าด้านประวัติศาสตร์เกี่ยวกับคอมมิวนิสต์อีกด้วย มาว่ากันด้วยความสวยงามทางธรรมชาติกันก่อน ไฮไลต์ที่ต้องไปถ่ายรูปให้ได้คือที่ ลานหินปุ่ม เป็นลานหินที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ มีหินขนาดไล่เลี่ยกันผุดขึ้นมาเป็นปุ่ม เป็นปม เกิดจาการสึกกร่อนตามธรรมชาติ เดินมาอีกหน่อยจะพบกับ ผาชูธง ที่สามารถเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล และสวยงามโดยเฉพาะยามพระอาทิตย์ตก ระหว่างเส้นทางศึกษาธรรมชาติก็มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ให้ได้ศึกษา ไม่ว่าจะเป็นที่พิพิธภัณฑ์การสู้รบ มีแผนภูมิข้อมูล อุปกรณ์การแพทย์ อาวุธ และเอกสารเผยแพร่ลัทธิคอมมิวิสต์ในอดีต สุสาน ทปท. ของนักรบทหารปลดแอกแห่งประเทศไทย ยิ่งเราศึกษาอดีตมากเท่าไรก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อปัจจุบันและอนาคตของเรามากขึ้นเท่านั้น
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดกำแพงเพชร
ถึงจะอยู่ในเขตภาคเหนือตอนล่าง แต่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ที่มีพื้นที่คาบเกี่ยวจังหวัดกำแพงเพชรและนครสวรรค์ก็มีอากาศหนาวเย็นสุดๆ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธาร เราจึงได้เห็นน้ำตกสวยๆ ถึง 4-5 แห่งรวมถึงมีหน้าผาที่สวยงามตามธรรมชาติ อย่าลืมแวะไปที่จุดชมวิวกิ่วกระทิง จะมองเห็นทัศนียภาพของป่ารอบๆ ได้เต็มที่ ถ้ายังหนาวไม่พอ เราแนะนำว่าต้องไปที่ “ช่องเย็น” ที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียสเพราะเป็นช่องเขาที่มีสายลมพัดตลอดเวลา พันธุ์พืชที่จะพบที่นี่ก็คือ กล้วยไม้ เฟิร์น มหัสดำ แถมยังมีนกหลากหลายชนิดจนกลายเป็นแหล่งดูนกยอดนิยมแห่งหนึ่งของเมืองไทย
ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์
ว่ากันว่าถ้าอยากฟอกปอดต้องไปที่ภูทับเบิก ยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ปกคลุมไปด้วยกะหล่ำปลี! หากอยากมาเจอสีเขียวของกะหล่ำปลีก็มาได้ 2 ช่วงของปีคือ พฤษภาคม-กรกฎาคม และตุลาคม-ธันวาคม แต่ถ้ามาแล้วไม่เจอก็ไม่เป็นไร เพราะความน่าสนใจของที่นี่ยังมีอีกเพียบ ช่วงหน้าหนาวเราจะได้กอดทะเลหมอกกันอย่างจุใจ ได้สัมผัสอากาศเย็นกันตลอดทั้งวัน ส่วนไฮไลต์ของภูทับเบิกคือดาวบนดิน ไม่ใช่ดาวที่ตกอยู่บนพื้นหรอก แต่เป็นคำเปรียบเปรยด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 1,447 เมตร ทำให้แสงไฟจากหมู่บ้านใกล้เคียงในยามค่ำคืนเรียงรายไปทั่วไม่ต่างจากแสงดาวบนท้องฟ้า เรียกได้ว่ามาแล้วคุ้ม เพราะเงยหน้ามองฟ้าก็เห็นดาวพร่างพราว พอมองลงไปตามแนวเขาก็เห็นแสงไฟระยิบระยับไม่ต่างกัน