สถานที่ท่องเที่ยวในมอลตา Malta มีพื้นที่เพียง 316 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี และชายฝั่งของแอฟริกา เป็นเกาะสวรรค์น้ำใสสีเทอร์ควอยซ์ ท่ามกลางท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีเกาะหลักๆ 3 เกาะ คือ เกาะมอลตา (Malta) เกาะโกโซ (Gozo) และเกาะโคมิโน (Comino) สูดลมหายใจให้ชุ่มปอดกับอากาศดีที่สุดในโลก ท้องฟ้าแจ่มใส เล่นน้ำทะเลคลายร้อนกันได้ทุกที่
เดินชมความหลากหลายของสถาปัตยกรรมนานาชาติทั้งกรีก โรมัน อาหรับ ชาวซิซิลี ฝรั่งเศส และอังกฤษกันให้ทั่วเมือง ได้แบบชิคๆ ชิลล์ๆ ถ่ายรูปเกร๋ๆ ชิมกาแฟ แถมได้ตามรอยซีรีย์ดังอย่าง Game of thrones อีกด้วย และที่สำคัญค่าใช้จ่ายสบายกระเป๋าถูกกว่าเที่ยวประเทศแถบยุโรปด้วยกันแหละ คริคริ ถ้าได้อ่านบทความนี้แล้ว มอลตาอาจจะถูกบรรจุไว้ในลิสต์การท่องเที่ยวของใครหลายๆ คนเลยทีเดียว
เที่ยววัลเลตตา และเมืองสามเมือง (Valletta and the Three Cities)
วัลเลตตา (Valletta) เมืองหลวงของมอลตา สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1566 โดยหัวหน้าของกลุ่มอัศวินเซนต์จอห์น ชื่อ Grandmaster Jean Parisot De Valette หลังจากถูกปิดล้อมครั้งยิ่งใหญ่ (The Great Siege) จากจักรวรรดิออตโตมัน จึงทำให้วาเลตตาล้อมรอบไปด้วยกำแพงเมือง และป้อมปราการ ตามสถาปัตยกรรมสมัยศตวรรษที่ 16 ยุคบารอก (Baroque) ผสมผสานกับยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance) ยุคคลาสสิค (Classic) ความโดดเด่นของอาคารเก่าแก่ที่สมบูรณ์สวยงาม จนได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ในปี ค.ศ. 1980 ให้เป็นเมืองแห่งมรดกโลกอันทรงคุณค่า กลายเป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหล กลมกลืนกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และการท่องเที่ยวได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งที่เรือสำราญ เรือยอร์ชเข้ามาเทียบท่าตลอดทั้งปี สร้างความเจริญทางเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว และรายได้ให้กับเศรษฐกิจในประเทศอย่างมหาศาล
สามเมือง (The Three Cities) เป็นคำที่ใช้เรียกเมืองวิตตอริโอซา (Vittoriosa) กอสปีกัว (Cospicua) และเซงเกลีย (Senglea) ในประเทศมอลตาค่ะ เป็นสามเมืองยุคกลางที่แข็งแกร่ง โดยประชากรรวมกันทั้งหมดประมาณ 10,808 คน และเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในสามเมืองนี้คือ วิตตอริโอซาซา (Vittoriosa) หรืออีกชื่อคือบีร์กู (Birgu) ค่ะ เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืน
เริ่มต้นกันที่ประตูเเมืองวิตตอริโอซา (Vittoriosa City Gate) เป็นการผสมผสานกำแพงเมือง ให้เข้ากับความโมเดิร์นในปัจจุบัน จนกลายคอมเพล็กซ์เซ็นเตอร์ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า และสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตในแห่งเดียวกัน เมื่อเดินผ่านประตูเมืองเข้ามาจะพบกับ วงเวียนน้ำพุไทรทัน (Triton Fountain) เป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนถ่ายรูปคู่กับสายน้ำที่เต้นระบำกลางน้ำพุ ช่วยให้บรรยากาศรอบๆ เย็นสบาย และยังเป็นจุดศูนย์กลางเชื่อมต่อไปแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมได้อีกด้วยค่า เช่น จัตุรัสรีพับบลิค (Republic Square) มีรูปปั้นสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย ในศตวรษที่ 19 ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่หน้าหอสมุดแห่งชาติ
ถัดมาเป็นวังของอินควิสเตอร์ (Inquisitor’s Palace) เคยเป็นสถานที่สำหรับพิจารณาตัดสินนักโทษในอดีต ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยา แสดงถึงความเป็นมาของชนชาติมอลตา และใครที่ชอบดูละครเวที ขอแนะนำโรงละครมาโนเอล (Manoel Theatre) หนึ่งในโรงภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ตกแต่งอย่างหรูหราสวยงามจนต้องบอกต่อเลยละ ไปชมความเริ่ดหรูกันต่อที่ พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ (Grandmaster’s Palace) สร้างขึ้นโดยเซนต์จอห์น ระหว่างศตวรรษที่ 16 และ 18 ปัจจุบันกลายเป็นทำเนียบประธานาธิบดี และพิพิธภัณฑ์จัดแสดงภาพวาด ภาพจิตรกรรมฝาผนังสไตล์บารอก บอกเล่าเรื่องราวความกล้าหาญของเหล่าอัศวิน อาวุธสมัยโรมัน ชุดโลหะเกาะ และงานศิลปะเป็นจำนวนมาก เดินชมกันไปเรื่อยๆ ให้ศิลปะซึมเข้าสู่กระแสเลือดไปเลย