วิหารธรรมยันจี เจดีย์สีทองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพุกามสร้างในรัชกาลพระเจ้านะระตู

วัดธรรมยันจีเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองพุกาม ประเทศพม่า มีชื่อเสียงว่าสร้างในรัชกาลพระเจ้านะระตู ผู้เสด็จขึ้นครองบัลลังก์ด้วยการปลงพระชนม์พระราชบิดาคือพระเจ้าอลองสิธูและพระเชษฐา จึงเชื่อกันว่าทรงสร้างวัดอันใหญ่โตนี้เพื่อลดทอนบาปของพระองค์ วิหารธรรมยันจีเป็นวัดอันน่าเกรงขามที่มอบโอกาสพิเศษให้กับผู้มาเยือนในการสัมผัสกับบรรยากาศอันเงียบสงบของพุทธศาสนาแบบพม่า

พงศาวดารพม่าระบุว่า พระเจ้านะระตูทรงถูกชาวอินเดียกลุ่มหนึ่งลอบปลงพระชนม์ขณะที่งานก่อสร้างยังดำเนินอยู่ วัดจึงมาสำเร็จหลังรัชกาล วัดนี้ก่อสร้างตามแบบแผนทำนองเดียวกับอานานดาพะย่า ศาสนสถานอีกแห่งในเมืองเดียวกัน มีการเอาอิฐมาก่อปิดในอาคารวัดไว้โดยไม่ปรากฏเหตุผล จึงมีเฉพาะมุขทั้งสี่และระเบียงภายนอกที่เข้าถึงได้ในปัจจุบัน  

ลักษณะของวัด
เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพุกาม มีลักษณะเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีมุขยื่นออกมาทั้งสี่ด้าน
สร้างด้วยอิฐสีแดง มีความแข็งแรงและสวยงาม
มีกำแพงอิฐก่อกั้นทางเดินไว้ระหว่างระเบียงด้านนอกสู่ระเบียงด้านใน ซึ่งเป็นปริศนาจนถึงปัจจุบัน

ที่ตั้งและความสำคัญ
วัดธรรมยันจีซึ่งตั้งอยู่ใจกลางของเมียนมาร์เป็นเสมือนประภาคารแห่งการไตร่ตรองทางจิตวิญญาณและความงามทางสถาปัตยกรรม วัดแห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนทางจิตวิญญาณสำหรับทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับคำสอนของพุทธศาสนา สถาปัตยกรรมของวัดสะท้อนถึงการออกแบบแบบพม่าดั้งเดิม โดยมีรายละเอียดที่ซับซ้อน เจดีย์สีทองและโถงทางเดินอันยิ่งใหญ่ ทำให้เป็นงานเลี้ยงทางสายตาสำหรับผู้ที่สนใจศิลปะและสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนา

บรรยากาศอันเงียบสงบ
เมื่อเข้าไปในวัดวัดธรรมยันจี ผู้มาเยี่ยมชมจะสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบของบริเวณโดยรอบ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการนั่งสมาธิและไตร่ตรอง เสียงธรรมชาติอันนุ่มนวลผสมผสานกับเสียงสวดมนต์อันนุ่มนวลของพระสงฆ์ช่วยสร้างบรรยากาศที่สงบเงียบและแผ่วเบา ผู้มาเยี่ยมชมได้รับการสนับสนุนให้เดินเท้าเปล่าไปรอบๆ บริเวณวัดเพื่อแสดงความเคารพและหลายคนใช้เวลาไปกับการนั่งสมาธิในลานวัดอันเงียบสงบ

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญภายในวัด
วิหารหลัก (อุปถัมภ์ศาลา) : วิหารใหญ่แห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่งดงามตระการตา ภายในห้องมีจิตรกรรมฝาผนังที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าอย่างประณีตงดงาม เพื่อให้ผู้มาเยือนได้เข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

เจดีย์ : ใจกลางวัดมีเจดีย์สีทองอร่ามงดงาม ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการสวดมนต์และการอุทิศตน ความงดงามของเจดีย์ยิ่งดูโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยสวนอันเขียวชอุ่มโดยรอบ

พื้นที่ปฏิบัติธรรม : วัดยังมีพื้นที่เงียบสงบสำหรับการทำสมาธิอีกด้วย ผู้เยี่ยมชมสามารถฝึกสติและเทคนิคการทำสมาธิได้ทั้งแบบอิสระหรือแบบมีพระภิกษุในวัดคอยให้คำแนะนำ

ประสบการณ์ทางวัฒนธรรม
นอกจากความสำคัญทางจิตวิญญาณแล้ว การไปเยี่ยมชมวัดธรรมยันจียังเป็นประสบการณ์ทางวัฒนธรรมอีกด้วย วัดแห่งนี้จัดพิธีและเทศกาลทางพุทธศาสนาเป็นประจำ โดยผู้เยี่ยมชมสามารถเข้าร่วมพิธีกรรมแบบพม่าดั้งเดิมได้ รวมถึงการถวายดอกไม้ ธูป และเทียนแด่พระพุทธเจ้า พิธีเหล่านี้มอบประสบการณ์อันล้ำค่าให้กับผู้ที่ต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักปฏิบัติทางพุทธศาสนาโดยตรง

ข้อมูลเชิงปฏิบัติ
เวลาเปิดให้เข้าชม : วัดเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงค่ำ แนะนำให้เข้าชมในช่วงเช้าเพื่อชมความงามอันเงียบสงบของวัดในยามรุ่งอรุณ
กฎการแต่งกาย : ผู้เยี่ยมชมจะต้องแต่งกายอย่างสุภาพ ปกปิดไหล่และเข่า เพื่อแสดงความเคารพต่อความศักดิ์สิทธิ์ของวัด
ค่าเข้าชม : วัดส่วนใหญ่ในเมียนมาร์มีค่าธรรมเนียมเข้าชมเล็กน้อย และโดยทั่วไปจะมีการบริจาคเพื่อแสดงความเคารพ

การไปเยี่ยมชมวัดวัดธรรมยันจีนั้นไม่ใช่แค่เพียงการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่จะได้สัมผัสกับรากฐานทางจิตวิญญาณอันลึกซึ้งของเมียนมาร์และเชื่อมโยงกับประเพณีทางพุทธศาสนา ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหาความสงบและการไตร่ตรอง หรือโอกาสที่จะดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่น วัดแห่งนี้คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางไปเมียนมาร์