สถานที่ท่องเที่ยวภาคอีสาน จังหวัดกาฬสินธุ์ วันนี้เป็นวันแรกนะครับที่เราจะพาทุกท่านไปเที่ยวภาคอีสานกันที่จังหวัดกาฬสินธุ์นะครับ
กาฬสินธุ์ เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางหรือตอนบนของประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 510 กิโลเมตร เป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดจังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน จากหลักฐานทางโบราณคดีบ่งบอกว่าเคยเป็นที่อยู่อาศัยของเผ่าละว้า ซึ่งมีความเจริญทางด้านอารยธรรมประมาณ 1,600 ปี
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์เริ่มตั้งเป็นเมืองในสมัยรัตนโกสินทร์ เมื่อปี พ.ศ. 2336 โดยท้าวโสมพะมิตรได้อพยพหลบภัยมาจากดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง (เมืองศรีสัตตนาคนหุตล้านช้างร่มขาวเวียงจันทน์) พร้อมไพร่พล และมาตั้งบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำปาว เรียกว่า “บ้านแก่งสำโรง” แล้วได้นำเครื่องบรรณาการเข้าถวายสวามิภักดิ์ต่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ต่อมาได้รับพระกรุณาโปรดเกล้ายกฐานะบ้านแก่งสำโรงขึ้นเป็นเมือง และพระราชทานนามว่า “เมืองกาฬสินธุ์” ซึ่งเป็นเมืองที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มาตั้งแต่สมัยโบราณกาล กาฬ แปลว่า “ดำ” สินธุ์ แปลว่า “น้ำ” กาฬสินธุ์ จึงแปลว่า “น้ำดำ” (น้ำดำในที่นี้หมายถึง น้ำที่ใสสะอาดจนมองเห็นดินสีดำ ซึ่งดินดำเป็นดินที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด) ทั้งมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ท้าวโสมพะมิตรเป็นพระยาชัยสุนทร (โสมพะมิตร) ครองเมืองกาฬสินธุ์เป็นคนแรก
กาฬสินธุ์มีแหล่งซากไดโนเสาร์และซากดึกดำบรรพ์อื่น ๆ หลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอำเภอสหัสขันธ์ อีกทั้งยังมีชื่อเสียงด้านโปงลางและผ้าไหมแพรวา นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นลาว, เขมร, จีน, เวียดนาม, ภูไท, กะเลิง, ไทข่า, ไทดำ และญ้อ เป็นต้น
สถานที่ท่องเที่ยวที่แรกที่เราจะพาไปเที่ยวคือวนอุทยานภูพระ
แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติ ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดงมูล อุดมสมบูรณ์ด้วยพรรณไม้ ภูเขา สัตว์ป่า และลำธารที่สวยงาม ขณะเดียวกันพื้นที่ราบด้างหลังภูเขาเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ และสำนักสงฆ์ที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือ ภายในมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ได้แก่ “ผาสวย” ลานหินผากว้าง เหมาะสำหรับเป็นที่ชมวิวทิวทัศน์ “ถ้ำเสียมสับ” ถ้ำหินผาที่มีลักษณะคล้ายเสียมที่ขุดลงหิน “ผาหินแยก” หน้าผาที่มีลักษณะเอนเอียง เป็นที่สำหรับชมวิวทิวทัศน์ “ถ้ำพระ” ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป ซึ่งในช่วงสงกรานต์จะมีประชาชนขึ้นไปสรงน้ำพระเป็นประจำทุกปี เป็นต้น
วนอุทยานภูพระ อยู่ในท้องที่ตำบลท่าคันโท ตำบลยางอุ้ม อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงมูล อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอท่าคันโทประมาณ 4 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 64,900 ไร่ โดยกรมป่าไม้ได้ประกาศจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2526 ลักษณะภูมิประเทศ เป็นภูเขาเตี้ยๆมีพื้นที่ราบภูเขาเป็นบางแห่ง บางแห่งเป็นหน้าผาที่มีความลาดชันสูง มีแหล่งน้ำธรรมชาติไหลรินอยู่ตลอดเวลา มีหินโผล่และลานหินสูงต่ำ พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า ป่าเต็งรัง มีพื้นที่ป่ามากที่สุดประมาณ 50 % ของพื้นที่ทั้งหมด มีไม้แคระแกร็นขนาดเล็กขึ้นอยู่ พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ เต็ง รัง พลวง แดง ป่าดิบแล้ง ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณริมห้วยมีประมาณ 25 % ป่ามีสภาพแคระแกร็น พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ตะเคียนทอง แดง ประดู่ ตะแบกใหญ่ ป่าเบญจพรรณ แทรกอยู่ระหว่างป่าเต็งรังกับป่าดิบแล้ง มีประมาณ 25 % มีไม้พื้นล่างได้แก่ เถาวัลย์ชนิดต่างๆซึ่งขึ้นอยู่ทั่วไป สัตว์ป่าที่พบได้แก่ หมูป่า ลิง ค่าง บ่าง กระรอก กระแต ไก่ป่า อีเห็น กิ้งก่า พังพอน งู ตะกวด บ้านพักและสิ่งอำนวยความสะดวก บ้านพัก-บริการ วนอุทยานภูพระ ไม่มีบ้านพักบริการแก่นักท่องเที่ยว หากมีความประสงค์จะไปพักแรมเพื่อพัก ผ่อนหย่อนใจ โปรดนำเต็นท์ไปกางเอง แล้วไป ติดต่อขออนุญาตใช้สถานที่กับเจ้าหน้าที่ วนอุทยานวนอุทยานภูพระโดยตรง แหล่งท่องเที่ยว บริเวณภูพระมีสำนักสงฆ์ที่ประชาชนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก และมีทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่สวยงาม ป็นภูเขาหินเตี้ยๆปกคลุมด้วย ป่าโปร่งตั้งอยู่บนทราบจึงเป็นต้นน้ำลำธารได้อย่างดี
ลักษณะเด่น
-ไหว้พระ -ชมวิวและศึกษาธรรมชาติ — —
ประวัติ
วนอุทยานภูพระ อยู่ในท้องที่ตำบลท่าคันโท ตำบลยางอุ้ม อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงมูล อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอท่าคันโท ประมาณ 4 กิโลเมตร บริเวณภูพระ มีสำนักสงฆ์ที่ประชาชนให้ความเคารพนับถืออย่างมาก และมีทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่สวยงามเป็นภูเขาหินเตี้ยๆ ปกคลุมด้วยป่าโปร่งตั้งอยู่บนทราบจึงเป็นต้นน้ำลำธารได้อย่างดี
รายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว
วนอุทยานภูพระ อยู่ในท้องที่ตำบลท่าคันโท ตำบลยางอุ้ม อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงมูล อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอท่าคันโทประมาณ 4 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 64,900 ไร่ โดยกรมป่าไม้ได้ประกาศจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2526
เดิมเป็นป่าภูพระอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดงมูล ลักษณะเด่นคือเป็นภูเขาตั้งตระหง่านอยู่ใกล้ชุมชน ป่าภูพระเป็นป่าที่มีพรรณไม้ขึ้นหนาแน่น มีสัตว์ป่า ลำธาร และทิวทัศน์ที่สวยงาม พื้นที่หลังเขาเป็นที่ราบประดิษฐานพระพุทธรูปหินเก่าแก่ ภายในวนอุทยานมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้แก่
ผาเสวย เป็นลานหินผากว้าง มีความลึกของหน้าผาประมาณ 150–200 เมตร เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
ถ้ำเสียมสับ เป็นถ้ำของหินผาที่มีลักษณะคล้ายเสียมที่ขุดลงหิน ซึ่งเมื่ออยู่หน้าปากถ้ำจะเห็นหินผาที่สูง
ถ้ำพระรอด เป็นถ้ำที่เกิดจากการแยกตัวของหินผา ภายในถ้ำมีทางเดินกว้างประมาณ 2 เมตร ระยะทางประมาณ 30 เมตร ในสมัยก่อนจะมีพระสงฆ์มาจำพรรษาและปฏิบัติธรรมเป็นประจำ
ผาหินแยก เป็นหน้าผาที่แยกตัวเป็นทางยาวประมาณ 20 เมตร ลึก 6 เมตร ซึ่งผาที่แยกตัวออกมาจะมีลักษณะเอนเอียงเป็นจุดที่สามารถชมทิวทัศน์ได้
ถ้ำพระ เป็นถ้ำที่มีความลึกประมาณ 30 เมตร ปากถ้ำกว้าง 15 เมตร มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่และราษฎรในท้องถิ่นต่างให้ความเคารพสักการะเป็นอย่างยิ่ง ในช่วงสงกรานต์จะมีงานเดินขึ้นภูพระเพื่อสรงน้ำพระเป็นประจำทุกปี
ลักษณะภูมิประเทศ เป็นภูเขาค่อนข้างสูง ยกตัวขึ้นโดยมีพื้นที่ราบบนหลังเขา มีหินโผล่และลานหินสูงต่ำมีหน้าผามากมายอยู่โดยรอบตัวภูพระที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 410 เมตร มีลำห้วยขนาดเล็กหลายลำห้วย มีแหล่งน้ำซับตามธรรมชาติไหลรินอยู่ตลอดเวลา
พืชพันธุ์และสัตว์ป่า พบป่า 3 ชนิด คือ
ป่าเต็งรัง ซึ่งมีพื้นที่ป่ามากที่สุดประมาณ 50% ของพื้นที่ทั้งหมด มีไม้แคระแกร็นขนาดเล็กขึ้นอยู่ พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ เต็ง รัง พลวง แดง
ป่าดิบแล้ง ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณริมห้วยมีประมาณ 25% ป่ามีสภาพแคระ-แกร็น พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ตะเคียนทอง แดง ประดู่ ตะแบกใหญ่
ป่าเบญจพรรณ แทรกอยู่ระหว่างป่าเต็งรังกับป่าดิบแล้ง มีประมาณ 25% มีไม้พื้นล่างได้แก่ เถาวัลย์ชนิดต่างๆซึ่งขึ้นอยู่ทั่วไป
สัตว์ป่าที่พบได้แก่ หมูป่า ลิง ค่าง บ่าง กระรอก กระแต ไก่ป่า อีเห็น กิ้งก่า พังพอน งู ตะกวด และนกชนิดต่างๆ ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก
การเดินทาง จากอำเภอท่าคันโท ใช้ทางหลวงหมายเลข 2299 กิโลเมตรที่16 นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางโดยรถประจำทางสายอุดรธานี-กาฬสินธุ์ ลงที่วัดสว่างถ้ำเกิ้งซึ่งอยู่บริเวณหน้าวนอุทยานฯ
เดินทางอย่างไร
โดยรถยนต์
การเดินทาง จากอำเภอท่าคันโท ใช้ทางหลวงหมายเลข 2299 กิโลเมตรที่ 16 นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางโดยรถประจำทางสายอุดรธานี-กาฬสินธุ์ ลงที่วัดสว่างถ้ำเกิ้งซึ่งอยู่บริเวณหน้าวนอุทยานฯ
ที่พัก
1.Water Blue Resort Thakantho
วนอุทยานภูพระ • อยู่ห่างออกไป 5.1 กม
ห้องนอนพอได้ แต่ห้องน้ำการจัดวางตำแหน่งของสุขภัณฑ์ภายใน ไม่ถูกต้อง เช่นที่แขวนผ้าอยู่ข้างและต่ำกว่าฝักบัวอาบน้ำ รวมถึงความสะอาด
ข้อมูลติดต่อและที่อยู่
59 moo1, อำเภอ ท่าคันโท กาฬสินธุ์ 46190
090 271 1232
2.EiDi Homestay
วนอุทยานภูพระ • อยู่ห่างออกไป 17.9 กม
บริการดี ห้องพักสะอาด ส่วนตัวดีมากเลย เจ้าของเป็นกันเองมากๆค่ะ มาเที่ยวที่กาฬสินธุ์บ่อย พักที่นี่ตลอด ชอบใบค่ะ
ข้อมูลติดต่อและที่อยู่
A, 77 Moo 11 Ban Dongmun T, ตำบล ดงมูล อำเภอ หนองกุงศรี กาฬสินธุ์ 46220
3.สุขสบายรีสอร์ท วังสามหมอ
วนอุทยานภูพระ • อยู่ห่างออกไป 21.6 กม
ห้องพักสะอาด บรรยากาศดี อยุ่ใจกลางเมืองเดินทางสะดวก
ข้อมูลติดต่อและที่อยู่
ซอย อนามัย ตำบล วังสามหมอ อำเภอ วังสามหมอ อุดรธานี 41280