รองเมืองเกาเหลา ร้านเกาเหลาเนื้อระดับตำนาน การที่ร้านอาหารสักหนึ่งร้านจะได้รับการยอมรับให้เป็นร้านระดับตำนานในเมืองไทยนั้น แน่นอนว่าต้องเป็นร้านที่รักษาคุณภาพเอาไว้มาได้อย่างยาวนาน และต้องได้รับการยอมรับจากลูกค้า จนถึงขั้นยกให้เป็นร้านประจำ ซึ่งในวันนี้ จะพาทุกคนไปพบกับร้านอาหารระดับตำนานอีกหนึ่งร้านของเมืองไทยที่เปิดให้บริการยาวนานมากว่า 68 ปี ร้านเกาเหลาเนื้อที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายๆ คน กับร้านรองเมืองเกาเหลา ตำนานเกาเหลาเนื้อแห่งเมืองกรุงเทพฯ
ร้านรองเมืองเกาเหลานี้ตั้งอยู่ในซอยรองเมือง เข้าซอยไปประมาณ 500 เมตร ก็จะเจอร้านอยู่ทางซ้ายมือหาไม่ยาก ตัวร้านเป็นตึกแถวไม่ใหญ่มาก แต่มีโต๊ะให้บริการหลายโต๊ะเลยทีเดียว ส่วนมากจะเป็นลูกค้าประจำเก่าแก่ที่ทานกันมาจนติดใจในรสชาติ มานั่งทานกันในยามเที่ยง
มาดูในส่วนของทีเด็ดของทางร้านกันบ้าง วันนี้เราได้ลองสั่งเกาเหลาเนื้อรวมพิเศษ แบบจัดเต็มแน่นๆ มาลองทาน พร้อมกับข้าวกะเพราเนื้อไข่ดาวเมนูใหม่ของทางร้านมาทานคู่กับเกาเหลาเนื้อด้วย
ต้องบอกเลยว่าสัมผัสแรกที่ได้ลิ้มลองน้ำซุปของเกาเหลาชามนี้ เป็นรสชาติที่ทำให้เราประทับใจตั้งแต่คำแรกที่ได้ลองชิมเลย น้ำซุปหอมกลิ่นยาจีน และความข้นของน้ำซุปนั้นเผยให้สัมผัสถึงรสชาติอย่างชัดเจน เป็นเกาเหลาที่เราสามารถทานได้โดยไม่ต้องปรุงแต่งใดๆ เลย อร่อยจริงๆ
เท่านั้นยังไม่พออีกหนึ่งความเด็ดของร้านนั่นก็คือส่วนเนื้อที่ทางร้านอัดแน่นมาเต็มชาม โดยมีส่วนต่างๆ ของเนื้อวัวรวมๆ กันมา ทั้งเครื่องใน เนื้อสด เนื้อเปื่อย เอ็นแก้ว เนื้อวุ้น ซึ่งเนื้อแต่ละชิ้นนั้นไม่มีกลิ่นคาวเลย นุ่มละมุนมากๆ ทานคู่กับน้ำซุปร้อนๆ คือฟิน!!! สวรรค์ของคนรักเกาเหลาเนื้ออย่างแท้จริง โดยรวมแล้วเกาเหลาเนื้อชามนี้เป็นอะไรที่เราชอบมาก รสชาติกลมกล่อม เข้มข้น เนื้อนุ่มละมุนและใส่มาให้แบบไม่อั้นจุใจ โดยเกาเหลาชามนี้จะเป็นสูตรแบบไม่ใส่ถั่วงอก จะมีผักแค่ผักบุ้งและกระเทียมเท่านั้น เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านที่เข้ากันเป็นอย่างดี
อีกหนึ่งเมนูที่เราสั่งมาทานกับเกาเหลาเนื้อนั่นก็คือกะเพราเนื้อไข่ดาว เนื้อชิ้นใหญ่ผัดกับใบกะเพราหอมๆ รสชาติร้อนแรง ราดมาบนข้าวสวยร้อนๆ โปะด้วยไข่ดาวเยิ้มๆ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วจริงๆ สำหรับสายเนื้อแบบเรา กะเพราจานนี้ทางร้านให้เนื้อมาเยอะมาก ตักทางไหนก็เจอแต่เนื้อ แถมยังเป็นเนื้อที่มีความนุ่ม และปรุงแต่งรสชาติด้วยเครื่องแกงมาได้อย่างกลมกล่อม โดยรวมแล้วอร่อย ควรสั่งมาลอง
สำหรับใครที่มาลองทานร้านนี้จะได้พบกับคุณป้าเจ้าของร้าน ซึ่งมีความน่ารักเป็นอย่างมาก คุณป้าเฟรนลี่คุยเก่งเป็นกันเอง เทคแคร์ลูกค้าเป็นอย่างดี เราที่มีโอกาสได้ไปลองทานก็ได้คุยกับคุณป้าและสอบถามถึงประวัติความเป็นมาของร้าน คุณป้ามีชื่อว่ากิมลุ้ย เปิดร้านเกาเหลานี้มาตั้งแต่ปี 2495 หรือกว่า 68 ปีแล้ว โดยคุณป้าเป็นรุ่นที่ 2 ที่รับสืบถอดกิจการมาจากคุณพ่ออีกที เรานั่งคุยกับคุณป้าไปพร้อมกับทานข้าวไปด้วย คุณป้าเล่าว่าเนื้อทุกชิ้นที่นำมาใช้นั้นจะต้องใช้ความพิถีพิถันในการเลือก การต้ม จนไปถึงการหั่นออกมาให้ดูน่าทาน น้ำซุปเป็นสูตรของทางร้านที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้ามาอย่างยาวนาน และรสชาติที่เราได้ลองชิมไปนั้นก็ได้พิสูจน์คำพูดของคุณป้าไปจนหมดสิ้นแล้วอร่อยมากจริงๆ แถมการได้นั่งคุยกับคุณป้าแบบนี้ยังให้ความรู้สึกเป็นกันเองเหมือนกับว่าเรามาทานข้าวอยู่ที่บ้านของญาติผู้ใหญ่เลยทีเดียว
และความพีคที่สุดคือเมื่อเราได้เดินออกจากร้านมาและเสิร์ชดูประวัติของร้านเพิ่มเติมเราก็ได้พบว่าคุณป้าที่เราได้นั่งคุยซึ่งเป็นเจ้าของร้านท่านนั้น แท้จริงแล้วคุณป้าก็คือคุณแม่ของพี่ซุป วิวัฒน์ วงศ์ภัทรฐิติ หรือพี่ซุป ซูเปอร์จิ๋ว นั่นเอง
หากใครมีโอกาสผ่านไปแถวถนนรองเมือง หรืออยากจะหาร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เกาเหลาเนื้ออร่อยๆ ทานแบบไม่อยากผิดหวัง เราขอแนะนำเลยว่ารองเมืองเกาเหลาเนื้อร้านนี้คืออีกหนึ่งร้านทีเด็ดที่สายเนื้อไม่ควรพลาด มาลองพิสูจน์รสชาติแห่งตำนานที่ร้านนี้กันดูครับรับรองไม่ผิดหวังแน่นอน