ประสบการณ์นอนเต็นท์ที่พัก Father’s Garden ดอยอินทนนท์ กางเต็นท์บนดอยในพื้นที่ภาคเหนือคงเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายคน ครอบครัวเราก็เช่นกันวันหยุดยาวนี้จึงวางแผนกันว่าจะไปกางเต็นท์ แต่ด้วยความที่เป็นการกางเต็นท์ครั้งแรกของพวกเราจึงอยากไปลองดูก่อน โดยจะยังไม่ลงทุนซื้ออุปกรณ์ใด ๆ เพราะครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งเดียวที่พวกเราจะท่องเที่ยวแล้วนอนเต็นท์ 55 เมื่อได้ทำการค้นคว้าสถานที่ที่พวกเราพอจะไปกางเต็นท์ได้ ก็ค้นพบว่าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์นั้นมีสถานที่ให้กางเต็นท์ และสามารถเลือกได้จะนำเต็นท์มาเองหรือ จะเช่าเต็นท์ของอุทยานก็ได้ อีกทั้งยังมีอุปกรณ์เครื่องนอน หมอน ผ้าห่ม ให้เช่าพร้อมสรรพ ครอบครัวเราจึงวางแผนการไปนอนเต็นท์ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
แต่เมื่อออกเดินทางได้ครึ่งชั่วโมงจากตัวเมืองเชียงใหม่ ก็เกิดกังวลใจขึ้นมาว่าจะนอนเต็นท์ได้ไหม มันจะร้อนไปไหม นอนในเต็นท์ที่นอนจะแข็งไปไหม จะพอนอนได้ไหม ห้องน้ำจะไกลไปไหม จะนอนใกล้กับเต็นท์ข้าง ๆ ไปไหม หลายคำถามมากมายพุดขึ้นมาให้ได้นั่งคิด ไม่อยากต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ มากมายพวกเราเลยเปลี่ยนใจลองหาสถานที่กางเต็นท์ ที่มีทุกอย่างพร้อมกว่าลานกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ หลังจากค้นหาทาง booking.com แล้วครอบครัวเราก็เลือก Father’s Garden Inthanon
Father’s Garden Inthanon ตั้งอยู่ในตำบลบ้านหลวง อยู่ไม่ไกลจากลานกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ประมาณ 5 นาทีโดยรถยนต์ Father’s Garden นั้นมีข้อดีดังนี้
-ในเต็นท์มีที่นอนให้ไม่ต้องนอนบนพื้น หรือนอนในถุงนอนซึ่งอาจจะบางมาก
-ที่พักมีทั้งหมดเพียง 4 ห้องเท่านั้น เป็นประเภท 2 ห้องนอน 1 ห้อง และ ประเภทเต็นท์ 3 ห้อง
-แต่ละห้องมี 2 ชั้น โดยชั้นล่างเป็นห้องน้ำส่วนตัวของแต่ละห้อง ส่วนชั้นบนเป็นที่กางเต็นท์
-ในห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่นให้บริการอีกด้วย
-จุดที่กางเต็นท์นั้นมีระเบียงด้านหน้า และมีไฟฟ้าพร้อมใช้ตลอดคืน
-มีหลังคาคลุมเต็นท์ทุกหลัง
-แต่ละห้อง มีทางเข้าส่วนตัว อยู่ห่างจากเต็นท์ด้านข้างประมาณ 5 – 7 เมตร
-มีอาหารเช้าเป็นข้าวต้มและขนมปังไว้บริการ
ราคาอยู่ที่ 1300 บาทต่อคืน รวมอาหารเช้าแล้ว เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าพักฟรี หลังจากศึกษาข้อดีทั้งหลายของ Father’s Garden แล้วพวกเราก็ตัดสินใจจองทันที
ซึ่งสถานที่ตั้ง Father’s Garden นั้นจะมีรีสอร์ทอีก 2 อันอยู่บริเวณใกล้ ๆ กัน ซึ่งเจ้าของ Father’s Garden บอกพวกเราว่าเป็นของญาติ ๆ กันนั่นเอง ซึ่งรีสอร์ททั้งสามแห่งนี้จะให้บริการในช่วงหน้าหนาว ซึ่งคือระหว่างปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนมีนาคมนั่นเอง ประสบการ์ณหลังจากนอนเต็นท์บนดอยแล้ว ครอบครัวเราสรุปว่า หน้าหนาวครั้งหน้าถ้ามีโอกาสอีกคงจะไปหาสถานที่แบบนี้นอนในเต็นท์กันอีกสักครั้งหนึ่ง เพราะเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจพวกเราไม่น้อย แต่คงต้องเลือกตอนที่สภาพอากาศปลอดโปร่งและท้องฟ้าแจ่มใส มี PM 2.5 ไม่สูงมาก
การเดินทางกลับเชียงใหม่เราเลือกเส้นทางขุนวาง โดยจะมีสถานที่เที่ยวคือน้ำตกสิริภูมิ โครงการหลวงดอยอินทนนท์ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง และผ่านตลาดที่ชาวบ้านนำสตอเบอรี่มาขายยกประป๋องไปเลย กระป๋องละ 200 บาทเท่านั้น หนักประมาณ 2 กิโลกรัม เส้นทางขุนวางนี้จะคดเคี้ยวกว่าเส้นทางปกติที่ใช้ขึ้นดอยอินทนนท์เล็กน้อย แนะนำว่าเหมาะสำหรับคนชำนาญทางเท่านั้น