สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดแม่ฮ่องสอน วันนี้เราจะพาทุกท่านไปเยี่ยมชมหมู่บ้านเล็กๆ ชมวิถีชาวบ้านกันนะครับที่บ้านห้วยห้อม หมู่บ้านเล็กๆในอำเภอแม่ลาน้อย เป็นหมู่บ้านที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย บ้านห้วยฮ่อมเป็นหมู่บ้านในอ้อมกอดของหุบเขา

โดดเด่นในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ชมไร่และชิมกาแฟห้วยห้อม  กาแฟห้วยห้อมเป็นกาแฟอันธุ์อาราบิการที่รสชาติเข้มข้น ได้รับการยอมรับจากสตาร์บัค  ชมฟาร์มแกะและการทอผ้าขนแกะ  ซึมซับวิถีชีวิตของชาวปะกาเกอะญอ ช่วงเวลาท่องเที่ยว   เที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ฤดูที่น่าเที่ยวที่สุดคือ ฤดูฝนและฤดูหนาว

บ้านห้วยห้อมเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่หุบเขา อ. แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านหนึ่งที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย บ้านห้วยห้อมเป็นหมู่บ้านในอ้อมกอดของหุบเขา มีนาขั้นบันไดและยังมีต้นหมากเป็นทิวแถว ชาวบ้านที่บ้านห้วยห้อมนับถือศาสนาคริสต์ อาชีพหลักคือ ปลูกข้าว เสาวรส และกาแฟอันธุ์อาราบิก้าที่รสชาติเข้มข้น มีการเลี้ยงแกะทำให้เกิดอาชีพเสริมคือกาทอผ้าจากขนแกะ และฝ้ายธรรมชาติ ชาวบ้านใน หมู่บ้านไม่ค่อยออกไปทำงานที่อื่น เพราะคนในหมู่บ้านมีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ จึงมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย

สัมผัสบรรยากาศ ซึมซับวิถีชีวิตของชาวบ้าน
ด้วยบรรยากาศที่รายล้อมด้วยธรรมชาติ ทำให้บ้านห้วยห้อมจึงเหมาะสำหรับมาเทียวพักผ่อน สูดอากาศบริสุทธิ์ ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านส่วนใหญ่จะ เป็นชาวกะเหรี่ยงปกากญอ มีการแต่งการที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยังคงประเพณีและวัฒนธรรมของชาวบ้านไว้และ ที่สำคัญชาวบ้าน และเด็กๆเป็นมิตรกับ นักท่องเที่ยวมาก

ชมไร่และชิมกาแฟห้วยห้อม
กาแฟห้วยห้อมนั้นถือว่าสร้างชื่อเสียงให้กับบ้านห้วยห้อมมาช้านาน ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์โอทอปห้าดาว ด้วยรสชาติกาแฟที่หอมและเข้มข้น เมื่อมาถึงต้องมา ชิมกาแฟจากไร่สดใหม่จากไร่ กาแฟห้วยห้อมเป็นกาแฟอันธุ์อาราบิก้าที่รสชาติเข้มข้น ซึ่งการเพาะปลูกไม่ใช้ สารเคมีใดๆให้เกิดสารตกค้าง ปัจจุบัน ชาวบ้านห้วยห้อมสามารถผลิตกาแฟแบบครบวงจร  ตั้งแต่การเพาะกล้ากาแฟ การผลิต การเก็บ ไปจนถึงการคั่วและบดกาแฟ จนกระทั่งบรรจุหีบห่อ สวยงาม ซึ่งมีบริการส่งทั่วไทย

ชมผลิตภัณฑ์ขนแกะ
หลังจากที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 เสด็จเยี่ยมเยือนประชาชนที่บ้านห้วยห้อม ทรงมีพระราชดำริส่งเสริม ให้ชาวบ้านมีอาชีพ เสริม คือ “การทำผ้าทอขนแกะ” ทรงพระราชทานให้ความช่วยเหลือด้านการปรับปรุงพันธุ์ โดยทรงโปรดฯให้เจ้าหน้าที่นำพันธุ์แกะจากต่างประเทศมาทำการ ผสมพันธุ์แกะพื้นเมือง จนได้แกะลูกพันธุ์ตัดขน การเลี้ยงแกะที่นี่ ก็เป็นเลี้ยงด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านแบบง่าย ๆไม่ซับซ้อนเหมือนฟาร์มใหญ่ การทอเป็น การทอที่ใช้เอวโบราณดั้งเดิม ไม่ใช้การทอแบบกี่กระตุก ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น เน้นความเป็นเอกลักษณ์ตามลายดั้งเดิมที่เคยทำมา เช่น ลายข้าวโพด ลายดอกเข็ม มีเพิ่มเติมลายใหม่บ้าง เช่น ลายเจดีย์ และ ลายดอกบัวตอง ซึ่งแสดงถึงเอกลักษณ์ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการทอก็มีด้วยกันหลายอย่าง เช่นผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ย่าม ผ้าตัดเสื้อ ผ้าคลุมโต๊ะ ฯลฯ

บ้านห้วยห้อม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ในช่วงเวลาที่อากาศดี เราอยากพาทุกคนออกเดินทางพร้อมกันเพื่อไปรู้จักและสัมผัสกับเสน่ห์ของ ‘หมู่บ้านห้วยห้อม’ หมู่บ้านที่เคยเป็นเพียงหมู่บ้านธรรมดา แต่เมื่อได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวง รัชกาลที่ 9 ก็กลับกลายมาเป็นหมู่บ้านที่เริ่มนำเอาวิถีเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ สร้างผลผลิตสู่กำไร สร้างความภาคภูมิใจในผลิตภัณฑ์อย่าง ‘กาแฟ’ และ ‘ผ้าทอขนแกะ’ ที่กลายเป็นมรดกทางปัญญาที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น

‘หมู่บ้านห้วยห้อม’ ที่ตำบลห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าไม้ มีหุบเขาล้อมรอบ บนความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,100 เมตร อากาศเย็นตลอดทั้งปี ห้วยห้อมเป็นหนึ่งในหมู่บ้านของเขตรับผิดชอบของศูนย์พัฒนาโครงการหลวง แม่ลาน้อย

การเดินทางมายังหมู่บ้านห้วยห้อมนั้นไม่ยาก แต่จะสะดวกหากเดินทางด้วยรถส่วนตัวหรือ เช่ารถจากเชียงใหม่เพื่อขับมาที่นี่ เพราะรับรองว่าคุณจะฟินไปกับบรรยากาศข้างทางขณะเดินทาง เพราะที่อำเภอแม่ลาน้อยในช่วงหน้าหนาวจะเขียวชอุ่ม ต้นไม้ใบหญ้ายืนต้นต้อนรับตลอดสองข้างทาง ลู่ลมโบกสะบัดใบทักทายเหล่านักเดินทางที่ผ่านมาผ่านไป ฝ่าเส้นทางคดโค้งมายังศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์บ้านห้วยห้อม

กาแฟห้วยห้อมแห่งวิถีชีวิต จากในหลวง รัชกาลที่ 9

สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อมาถึง คือลองสั่งกาแฟห้วยห้อม ความเข้มข้นของกาแฟอาราบิกาที่หอมอบอวล มาพร้อมรสขมเข้มข้น ช่วยปลุกให้ตื่นจากความง่วง และทำให้เราตกอยู่ในภวังค์ของรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟห้วยห้อมซึ่งได้รับคัดเลือกให้

เราได้รู้จักกับ เฟิร์น – ธาริณี บงกชรัศมี ชาวปกาเกอะญอที่เกิดและเติบโตที่หมู่บ้านห้วยห้อมแห่งนี้ เฟิร์นเล่าถึงจุดเริ่มต้นของกาแฟห้วยห้อมว่าเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2515 โดยในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมชาวบ้านป่าแป๋และบ้านห้วยห้อมเป็นครั้งแรก ตอนนั้นห้วยห้อมยังเป็นหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญ การเดินทางเข้ามาที่นี่ก็แสนจะลำบาก จึงพระราชทานทุนทรัพย์จำนวนหนึ่งเพื่อจัดตั้งเป็นธนาคารข้าว พร้อมมีรับสั่งว่าเป็นธนาคารข้าวแห่งแรกของโลก

เมื่อถามถึงการมาถึงของเมล็ดกาแฟ ก็พบว่า กาแฟอาราบิก้าถูกนำเข้ามาปลูกโดยกลุ่มมิชชันนารีในปีเดียวกันกับการเสด็จของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งไม่ได้นำเข้ามาเพียงแค่ความรู้ด้านกาแฟ แต่ยังมีการนำความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงแกะเข้ามาสอนให้กับชาวบ้านอีกด้วย

เราจึงไม่รอช้า ขอตามเฟิร์นไปดูกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจิบของกาแฟห้วยห้อม และขั้นตอนกว่าจะมาเป็นผ้าทอขนแกะหนึ่งเดียวในประเทศ

กระบวนการตั้งแต่ต้นจนจิบของ ‘กาแฟห้วยห้อม’

เฟิร์นพาเราไปที่ไร่กาแฟอาราบิก้า และชวนเก็บเมล็ดกาแฟสดๆ จากต้น เธอเล่าว่า ชาวบ้านเน้นการปลูกต้นกาแฟอาราบิกาแบบปลอดสารพิษ การปลูกแต่ละครั้งใช้เวลา 2-3 เดือนกว่าจะได้เมล็ดกาแฟที่

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ที่นี่ผลิตเมล็ดกาแฟคุณภาพ ก็มาจากสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการปลูก ซึ่งต้นกาแฟสามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่หนาวเย็น และมีความสูงจากระดับน้ำทะเลอย่างน้อย 700 เมตรขึ้นไป จึงทำให้เมล็ดกาแฟของห้วยห้อมงอกงามเปี่ยมคุณภาพ

เฟิร์นเล่าว่า จนตอนนี้ ชาวบ้านในหมู่บ้านห้วยห้อมสามารถปลูกกาแฟแบบครบวงจร และสามารถหาเลี้ยงชีพจากการปลูกกาแฟได้ ผลผลิตก็ได้มาตรฐานระดับสูง น้อยคนที่จะรู้ว่า เมล็ดกาแฟจากห้วยห้อม เป็นหนึ่งในเมล็ดที่ได้รับเลือกไปขายในร้านกาแฟชื่อดังอย่างสตาร์บัคส์ ที่กลายเป็นลูกค้าสำคัญ และเป็นที่มาของรสชาติที่หลายคนคุ้นเคย

ความใส่ใจและพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ทำให้กาแฟห้วยห้อมเป็นที่ยอมรับ และได้รับการการันตีจากโอท็อป มีการแปรรูปใส่ในบรรจุภัณฑ์ที่ถูกสุขลักษณะส่งออกไปทั่วประเทศและทั่วโลก

ผ้าทอขนแกะ หนึ่งเดียวในประเทศไทย ณ ห้วยห้อม

หลังจากได้เห็นกระบวนการต่างๆ กว่าจะมาเป็นกาแฟห้วยห้อมแล้ว เฟิร์นก็พาเราไปทักทายเหล่า ‘น้องแกะ’ ที่อาศัยอยู่เต็มทุ่งหลังโฮมสเตย์ของที่นี่

แกะที่หมู่บ้านห้วยห้อม เลี้ยงแบบเรียบง่ายตามภูมิปัญญาชาวบ้าน ส่วนใหญ่จะเลี้ยงไว้ใต้ถุนบ้าน ที่แต่ละวัน จะมีการปล่อยให้แกะได้ออกมาวิ่งเล่น แกะจึงไม่เครียด และเมื่อแกะมีขนหนาพร้อมตัด ชาวบ้านก็นำมาผ่านกระบวนการทำผ้าทอขนแกะ

ขณะนี้ หมู่บ้านห้วยห้อมเป็นหมู่บ้านเดียวในประเทศไทยที่สามารถผลิตผ้าทอขนแกะและส่งออกไปทั่วประเทศและทั่วโลก รวมถึงได้รับการการันตีจากโอท็อปให้เป็นสินค้าห้าดาว

จากนั้นเฟิร์นก็พาเราไปให้อาหารน้องแกะได้อิ่มหนำสำราญกันถ้วนหน้า รวมถึงได้ลองนำขนแกะมาหวี เพื่อให้ขนแกะสะอาด บางเบา พร้อมนำไปเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป นั่นคือการถักทอเป็นผืน

หลังจากได้ลงไปเจอกับแกะตัวเป็นๆ และหวีขนแกะแล้ว เฟิร์นก็สาธิตการทอผ้าด้วยเครื่องทอแบบโบราณ ชนิดใช้เอว ซึ่งยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน รวมถึงมีการสืบทอดลายผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น เช่น ลายเมล็ดฟักทอง ลายดอกพริก ลายแมงมุม ลายเลอเมอเจอะหรือลายต่อลูกเดือย

ลายเหล่านี้ล้วนได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ เฟิร์นยังเล่าอีกว่า เธอถูกสอนให้ทอผ้าตั้งแต่ยังอายุประมาณ 10 ขวบ ซึ่งหมู่บ้านนี้จะสอนให้ฝึกทอผ้ากันตั้งแต่ยังเด็ก จนตอนนี้เฟิร์นเองก็กลายมาเป็นคนที่สอนการทอผ้าให้กับเด็กๆ ด้วย

บ้านห้วยห้อม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

โฮมสเตย์กับวิวนาขั้นบันไดที่พร้อมพาคุณหลงใหลไปกับธรรมชาติ

ที่หมู่บ้านห้วยห้อมมีบ้านพักแบบโฮมสเตย์ให้คุณได้เลือกสรร ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่ คือวิวนาขั้นบันไดที่เขียวชอุ่ม ตื่นมาในตอนเช้าด้วยบรรยากาศหนาวๆ และสดชื่นในเวลาเดียวกัน สูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด

ใครที่กำลังลังเลว่าจะมาที่ห้วยห้อมดีไหม อยากให้มาพักผ่อนหย่อนใจที่นี่ดู เพราะนอกจากจะได้พบเจอกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์แล้ว พี่ ป้า น้า อา ที่นี่ก็น่ารัก รับรองว่าดูแลแขกที่มาพักที่นี่เป็นอย่างดีแน่นอน ที่สำคัญคือ คุณสามารถไปสัมผัสบรรยากาศสวนต้นกาแฟและไปเจอน้องแกะแบบใกล้ชิดได้เลย

หากใจของคุณเรียกร้องการออกไปเที่ยวเพื่อเติมพลังและคลายความเหนื่อยล้าที่มีอยู่ ลองเปิดใจ แล้วมาพบกับธรรมชาติของที่นี่ดู อากาศหนาว บรรยากาศอบอุ่น กาแฟหอมกรุ่นจะเยียวยาใจคุณได้แน่นอน และหวังว่า ‘หมู่บ้านห้วยห้อม’ จะเป็นอีกหนึ่งสถานที่จุดหมายปลายทางที่คุณผู้อ่านจะเลือกไปสัมผัส

การเดินทางไปโครงการหลวงแม่ลาน้อย

1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
จากตัวเมืองชียงใหม่ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 108 สายเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ผ่านแม่สะเรียง มุ่งหน้าอำเภอแม่ลาน้อยถึง กม.132 ให้เลี้ยวขวาไปตาม เส้นทาง 1266 ขึ้นดอยอีก 30 กิโลเมตร รถทุกชนิดสามารถสัญจรได้ (ไม่มีรถโดยสารสาธารณะผ่าน)

บ้านพักโฮมสเตย์

บ้านห้วยห้อม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
การพักผ่อนที่โอมสเตย์บ้านห้วยห้อม นับเป็นโปรแกรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว ที่อยากจะสัมผัสชีวิตของชาวเขาเผ่าปกาเกอะญอ ชมธรรมชาติที่สวยงามและอากาศเย็นตลอดปี ที่นี่มีบ้านพักแบบโฮมสเตย์ 5 หลัง และกำลังขยายเพิ่มในอนาคต  โดยแต่ละหลังรองรับนักท่องเที่ยวได้ 10-20 คน มีอาหารพื้นบ้านราคาไม่แพง โดยคิดค่าใช้จ่าย อัตราค่าที่พักคนละ 150 บาท (ห้องน้ำรวม) นอกจากนี้ยังมีบ้านเป็นหลังในราคาห้องละ 800 บาท มีห้องน้ำในตัว ส่วนค่าอาหารมีทั้งอาหารตามสั่งคิดตามราคา และแบบบุฟเฟ่ต์ต่อหัวในกรณีที่นักท่องเที่ยวมาเป็นกลุ่มคณะขั้นต่ำ 10 คน ราคาหัวละ 120 บาท มีไกด์ท้องถิ่นนำเยี่ยมชมรอบๆ หมู่บ้าน ครั้งละ 200 บาท ติดต่อนางมะลิวัลย์ ประธานกลุ่มทอผ้าขนแกะและกาแฟ  โทร. 089 555 3900