นครจักรพรรดิ ย้อนรอยประวัติศาสตร์แห่งราชวงศ์เหงียนสัมผัสกับวิถีชีวิตวัฒนธรรมของราชวงศ์ในอดีต

นครจักรพรรดิหรือนครต้องห้ามแห่งเมืองเวเป็นหนึ่งในมรดกโลกที่สำคัญของเวียดนาม และเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์เหงียน การได้มาเยือนที่นี่เปรียบเสมือนการย้อนเวลาไปสัมผัสกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของราชวงศ์ในอดีตสร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 โดยพระเจ้าจาลอง เพื่อเป็นที่ประทับของราชวงศ์เหงียน

ที่ตั้งและประวัติความเป็นมา
นครจักรพรรดิ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 โดยพระเจ้าจาลอง เพื่อเป็นที่ประทับของราชวงศ์เหงียน และเป็นศูนย์กลางการปกครองของประเทศ แผนผังของนครจักรพรรดินั้นได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมของจีน มีกำแพงเมือง 3 ชั้น และภายในประกอบด้วยพระราชวัง วัดวาอาราม และสิ่งก่อสร้างสำคัญต่างๆ มากมาย

เว้ เคยเป็นเมืองหลวงของเวียดนามมาก่อน เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหอมในเวียดนามตอนกลาง เว้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก เป็นที่ตั้งของนครหลวงอันงดงาม (หรือที่รู้จักกันในชื่อ พระราชวังหลวง หรือ “กิญถั่น”) นครโบราณที่มีกำแพงล้อมรอบนี้เคยเป็นศูนย์กลางทางการเมือง วัฒนธรรม และศาสนาของราชวงศ์เหงียนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2345 ถึง พ.ศ. 2488 ปัจจุบัน เว้ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในเวียดนาม โดยให้สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของยุคสมัยที่ล่วงเลยไปแล้ว

1. เมืองหลวง (ป้อมปราการ)
ใจกลางเมืองเว้มีพระราชวังหลวงซึ่งเป็นผลงานชิ้นเอกทางสถาปัตยกรรมที่ล้อมรอบด้วยคูน้ำและกำแพงขนาดใหญ่ อาคารนี้เป็นตัวอย่างอันน่าทึ่งของสถาปัตยกรรมเวียดนามแบบดั้งเดิม โดยมีประตู ห้องโถง ศาลา และที่ประทับของราชวงศ์ที่สง่างาม นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมพระราชวังหลวงและชื่นชมความวิจิตรประณีตของอาคารต่างๆ ซึ่งบางหลังได้รับการบูรณะให้สะท้อนถึงความงดงามในอดีต สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญภายในพระราชวังหลวง ได้แก่:

ประตูเที่ยงวัน (Cửa Ngọ Môn):ทางเข้าหลักสู่พระราชวังหลวง ซึ่งมอบทัศนียภาพอันงดงามของทั้งบริเวณ
นครต้องห้าม:พระราชวังส่วนพระองค์ของจักรพรรดิ ซึ่งเคยเข้าได้เฉพาะราชวงศ์และเจ้าหน้าที่ระดับสูงเท่านั้น
พระราชวังไทฮัว:ห้องโถงที่ตกแต่งสวยงาม ใช้เป็นที่ที่จักรพรรดิใช้ประกอบพิธีอย่างเป็นทางการและเข้าเฝ้าเจ้าหน้าที่ของพระองค์
2. สุสานราชวงศ์เหงียน
นอกเมืองหลวง สุสานของจักรพรรดิเหงียนยังตั้งกระจายอยู่ทั่วบริเวณเว้ ซึ่งให้ความรู้เกี่ยวกับชีวิตของราชวงศ์เวียดนามอย่างน่าสนใจ สุสานแต่ละแห่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมเข้ากับความงามตามธรรมชาติของภูมิทัศน์โดยรอบ สุสานที่มีชื่อเสียงที่สุดบางแห่งได้แก่:

สุสานมิงห์หม่าง:สุสานแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าที่งดงาม มีชื่อเสียงในเรื่องบรรยากาศอันเงียบสงบและสถาปัตยกรรมที่กลมกลืน
สุสานไคดิงห์:สุสานที่ทันสมัยกว่า จัดแสดงอิทธิพลสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างเวียดนามและยุโรป พร้อมด้วยโมเสกอันน่าทึ่งและรายละเอียดที่ซับซ้อน
สุสานของตู้ดึ๊ก:สุสานแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องทะเลสาบและสวนอันเงียบสงบ สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและน่านั่งสมาธิ
3. แม่น้ำหอม
แม่น้ำน้ำหอมซึ่งตั้งชื่อตามดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมซึ่งครั้งหนึ่งเคยตกลงไปในน้ำ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของเมืองเว้ การล่องเรือไปตามแม่น้ำเป็นวิธีการชมทิวทัศน์ที่สวยงามและเงียบสงบของเมืองและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่างๆ เช่น เจดีย์ สะพาน และสุสานของราชวงศ์ที่เรียงรายอยู่ริมฝั่ง นักท่องเที่ยวจำนวนมากนั่งเรือไปที่เจดีย์เทียนมู่ซึ่งเป็นวัดพุทธโบราณที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่เก่าแก่และเป็นสัญลักษณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเว้

4. เจดีย์และวัด
เว้เป็นที่ตั้งของเจดีย์และวัดที่สวยงามหลายแห่งซึ่งให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติทางจิตวิญญาณและศาสนาของภูมิภาคนี้ บางแห่งที่น่าสนใจ ได้แก่:

เจดีย์เทียนมู่:สัญลักษณ์ของเมืองเว้ เจดีย์สูง 7 ชั้นแห่งนี้มีทัศนียภาพของแม่น้ำหอมที่สวยงาม และเป็นสถานที่แสวงบุญที่สำคัญของชาวพุทธในเวียดนาม
วัดตูเฮี่ยว:เจดีย์อันเงียบสงบที่ตั้งอยู่ในป่าอันเงียบสงบ ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องสุสานของพระสงฆ์พุทธ และบรรยากาศอันเงียบสงบ
5. อาหารเว้
การมาเยือนเว้จะสมบูรณ์แบบไม่ได้เลยหากไม่ได้ลิ้มลองอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง เมืองนี้ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารของราชวงศ์ซึ่งสืบทอดมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์เหงียน อาหารที่ต้องลองชิมได้แก่Bánh bèo (เค้กข้าวสวย) Bánh khoái (แพนเค้กเวียดนาม) และCơm hến (ข้าวกับหอย) วัฒนธรรมอาหารของเว้สะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองและอิทธิพลจากราชสำนัก ทำให้ที่นี่เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ชื่นชอบอาหาร

6. ประสบการณ์ทางวัฒนธรรม
เมืองเว้ไม่ได้มีแค่โบราณสถานและโบราณวัตถุของราชวงศ์เท่านั้น นักท่องเที่ยวยังสามารถดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้โดยการสำรวจตลาดที่คึกคัก เช่นตลาดดองบาและชมการแสดงดนตรีพื้นเมืองเว้ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโก สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของราชวงศ์เหงียนพิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุของราชวงศ์เว้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การค้นพบโบราณวัตถุและสมบัติล้ำค่า

การเดินทางไปเว้จะมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจไม่รู้ลืมที่ซึ่งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความงามของธรรมชาติมาบรรจบกัน นครหลวงอันสง่างาม สุสานราชวงศ์ วัด และแม่น้ำที่งดงาม จะทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกผูกพันอย่างลึกซึ้งกับมรดกอันล้ำค่าของเวียดนาม ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ผู้แสวงหาวัฒนธรรม หรือผู้ที่รักธรรมชาติ เว้มีสิ่งที่น่าเสนอให้กับทุกคน อย่าพลาดโอกาสที่จะย้อนเวลากลับไปและสำรวจหัวใจแห่งอดีตอันรุ่งโรจน์ของเวียดนาม