ท่องเที่ยว พระราชวังแวร์ซายส์ แห่งพระเจ้าหลุยส์ ที่ 14 พาไปทำความรู้จักกับ พระราชวังแวร์ซายส์ (Chateau de Versailles) ประเทศฝรั่งเศส พระราชวังที่ใหญ่และสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก กับสถาปัตยกรรมและการตกแต่งสุดอลังการ สถานที่ที่ครั้งหนึ่งคณะทูตจากสยามในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งอยุธยา เคยเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14

พระราชวังแวร์ซายส์ (Chateau de Versailles) ประเทศฝรั่งเศส พระราชวังที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยความยิ่งใหญ่ หรูหราโอ่อ่า ทั้งสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน และพื้นที่โดยรอบที่รายล้อมไปด้วยสวนสวยที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ที่นี่ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่คนทั่วโลกต่างอยากได้ไปเห็นสักครั้งในชีวิต ซึ่งในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 นั้น ก็มีชาวสยามได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระองค์ถึงด้านในพระราชวังแวร์ซายส์มาแล้ว

จากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ทำให้ชื่อของสยามเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในหมู่ชาวยุโรป นำมาสู่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอันดีมาจนถึงปัจจุบัน ถ้าใครได้ชมละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ก็พอจะทราบว่าชาวสยามเหล่านั้น ก็คือคณะทูตที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้ทรงแต่งตั้งเพื่อไปเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง พระราชวังแวร์ซายส์มีความเป็นมาอย่างไร จะสวยงามหรูหรามากแค่ไหน เราไปทำความรู้จักกันเลยค่ะ

พระราชวังแวร์ซายส์อยู่ที่ใด

พระราชวังแวร์ซายส์ ตั้งอยู่ในเมืองแวร์ซายส์ (Versailles) ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของกรุงปารีส ห่างจากใจกลางเมืองปารีสมาราว ๆ 17 กิโลเมตร

จุดกำเนิดพระราชวังที่ยิ่งสวยงามหรูหราแห่งหนึ่งของโลก

สำหรับประวัติความเป็นมาของพระราชวังแวร์ซายส์นั้น ต้องย้อนไปจนถึงพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส ด้วยพระองค์นั้นชอบไล่ล่าสัตว์และชอบใกล้ชิดกับธรรมชาติ พระองค์มีโอกาสมาล่าสัตว์ในป่ารอบ ๆ เมืองแวร์ซายส์อยู่หลายครั้ง จนในปี ค.ศ. 1622 ก็ได้เริ่มซื้อผืนป่าในเมืองนี้เพื่อล่าสัตว์ส่วนพระองค์ จนต่อมาปี ค.ศ. 1623 ก็ทำที่พักขนาดเล็กขึ้นที่นี่ และในปี ค.ศ. 1631 ก็มีการสร้างใหม่ให้กลายเป็นชาโตว์ขนาดย่อม ๆ

ต่อมาในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส พระองค์ทรงตัดสินพระราชหฤทัยย้ายราชสำนักมาอยู่ที่เมืองแวร์ซายส์ และได้ปรับปรุงพระตำหนักหลังเก่าให้กลายมาเป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ สวยงามและหรูหราที่สุดในยุโรป เริ่มดำเนินการในปี ค.ศ. 1661 และมีการสร้างเรื่อย ๆ ใช้เวลาในการก่อสร้างร่วมกว่า 30 ปี ตลอดสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส พระองค์ทรงใช้ที่นี่เป็นสถานที่ในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ซึ่งรวมทั้งคณะทูตจากสยามในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งอยุธยาด้วย

พระราชวังแวร์ซายส์ เป็นสถานที่พำนักของกษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์เรื่อยมา จนถึงสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส เมื่อเกิดการปฏิวัติฝรั่งเศสขึ้น ทั้งตัวของพระองค์เองและพระบรมวงศานุวงศ์ก็ได้เสด็จออกจากพระราชวังแวร์ซายส์เพื่อไปพำนักที่พระราชวังตุยเลอรีส์ในปารีส นับแต่นั้นพระราชวังแวร์ซายส์ก็ไม่เคยได้เป็นที่พำนักของกษัตริย์อีกเลย จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1837 พระเจ้าหลุยส์-ฟีลิปที่ 1 แห่งฝรั่งเศส ก็ได้มีคำสั่งให้เปลี่ยนพระราชวังแวร์ซายส์มาเป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส

ความหรูหราโอ่อ่าของพระราชวังแวร์ซายส์

ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายส์มีพื้นที่ทั้งหมดมากกว่า 800 เฮกตาร์ แบ่งออกเป็น 5 ส่วนใหญ่ ๆ ด้วยกัน ได้แก่ The Palace, The Gardens, The Estate of Trianon, The Royal Stables และ The Park

ในส่วนของ The Palace จะเป็นที่ตั้งของอาคารหลักพระราชวังแวร์วายส์ ซึ่งมีสถาปัตยกรรมแบบบาโรค-รอคโคโค สร้างด้วยหินอ่อนและวัสดุที่ดีเยี่ยม แบ่งออกเป็นห้องต่าง ๆ มากกว่า 700 ห้อง เตาผิงมากกว่า 1,200 เตา หน้าต่างอีกกว่า 2,000 บาน และบันไดราว ๆ 60 บันได ภายในพระราชวังแวร์วายส์ตกแต่งเป็นไปในธีมเดียวกัน มีลักษณะสวยงามหรูหราโอ่อ่า ทั้งของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ล้วนมีการสั่งทำจากวัสดุชั้นดี วิจิตรบรรจง ซึ่งราคาก็แพงลิบลิ่ว ทำให้ต้องใช้เงินจากในพระคลังค่อนข้างมากในการก่อสร้าง