สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องขาเที่ยวทุกๆท่าน วันนี้ผมจะพาไปเที่ยวกันที่ดอยสกาด  ดอยที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการปลูกเมี่ยง ถิ่นปลูกมะแขว่นของดีเมืองน่าน ดอยแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวไทยภูเขาชนเผ่าลั๊วะที่มีวิถีชีวิตเรียบง่าย และที่สำคัญยังคงมีความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับมาพักผ่อนชาร์ตแบตรีเฟรซร่างกายให้หายจากความเหนื่อยล้า

ดอยสกาด1

ดอยสกาด ตั้งอยู่ในอำเภอปัว จังหวัดน่าน บนเทือกเขาดอยภูคา ห่างจากตัวเมืองปัวประมาณ 22 กม. ใช้เวลาเดินทางครึ่งชั่วโมง ผ่านเส้นทางของถนนที่โค้งไปมามีชันบ้างในช่วงสุดท้าย ถนนขึ้นดอยเป็นถนนลาดยางตลอดทั้งเส้น รถทุกชนิดสามารถสัญจรได้ ถ้าขับขึ้นดอยเข้าโค้งได้ก็ไม่ยากเกินไปที่จะมาถึงดอยแห่งนี้  เมื่อเข้าสู่ดอยสกาดจะเห็นบ้านเรือนของชาวบ้านปลูกแทรกตามไหล่เขา บางหลังมีต้นชาหรือเมี่ยงปลูกอยู่ในบริเวณบ้านด้วย พันธุ์ที่นิยมปลูกบนดอยสกาด คือ ชาอัสสัมซึ่งมีปลูกทั้งแบบเพาะเมล็ดพันธุ์เอง และขึ้นเองตามธรรมชาติ จึงทําใหการปลูกชาไม่เป็นแถวแต่ลักษณะการปลูกเป็นการปลูกใต้ร่มเงาของไม้ใหญ่หรือไม้ร่มเงา

ซึ่งที่นี่จะมีการเอาใบชาอัสสัม มาทำเป็น ใบเมี่ยง ไว้รับประทาน และยังนำไปทำเป็นของใช้มากมายอีกด้วย เช่น หมอนใบเมี่ยง โดยกลิ่นหอมของใบเมี่ยงนั้น จะช่วยให้คลายเครียด และดูดซับกลิ่นต่างๆ ได้ดีเลย จนทำให้ที่ ดอยสกาด แห่งนี้ มีชื่อเสียงในเรื่องของ ใบเมี่ยง และ มะแขว่น ขึ้นมา

ดอยสกาด2

การเดินทาง มายัง ดอยสกาด

ถ้าใครจะขัยรถตรงมาจากกรุงเทพฯ ให้ใช้ถนนสายเอเชียตรงเข้ามาภาคเหนือเลยค่ะ พอถึงนครสวรรค์ แล้วก็ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนทางหลวงหมายเลข 117 ผ่านจังหวัด พิษณุโลก อุตรดิตถ์ แล้วเข้าถนนทางหลวง 101 ของแพร่ จากนั้นผ่านน่าน ขึ้นไปจนถึงอำเภอปัว แล้วไต่เขาไปอีก 22 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณของหมู่บ้านสกาดแล้ว

ที่พัก

รี1
1.สกาดดีโฮมสเตย์
ดอยสกาด มีที่พักแบบโฮมสเตย์ประมาณ 3 แห่ง  แต่ที่พักที่เรียกได้ว่าเปิดตัวดอยสกาดให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว  คือ สกาดดีโฮมสเตย์  ที่พักแบบบ้านไม้เรียบง่ายที่ตั้งอยู่บนที่สูงสามารถมองเห็นวิวของเทือกเขาดอยภูคาได้แบบพาโนรามาจากระเบียงหน้าบ้าน  นอกจากเปิดเป็นที่พักแล้ว ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชม จิบชา ดริฟกาแฟ ชมวิวถ่ายภาพสวยๆ  ได้ตลอดทั้งวัน ถึงแม้ไม่ได้มาพักก็แวะมาจิบบรรยากาศได้

ชัยยินดิ์ เจ้าของสกาดดีโฮมสเตย์  คนรุ่นใหม่ไฟแรงที่ได้ลาออกจากอาชีพครูโรงเรียนเอกชน  กลับถิ่นฐานบ้านเกิดปรับเปลี่ยนบ้านที่อยู่อาศัยให้กลายเป็นโฮมสเตย์น่าพักคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มีความหลงไหลในธรรมชาติ พร้อมกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจิบชา ดริปกาแฟ  ชัยยินดิ์ ดูแลผู้มาเยี่ยมเยือนด้วยรอยยิ้ม  โดยบอกว่าไม่อยากให้คิดว่ามาเป็นนักท่องเที่ยว แต่ให้คิดว่าเหมือนเป็นเพื่อนที่แวะมาเยี่ยมเยือนพักผ่อน ทุกครั้งที่เห็นมีคนเดินเข้ามาก็จะไปต้อนรับด้วยการยกชุดชา กาแฟ มาให้ลองดื่ม พร้อมเล่าเรื่องราวของชา กาแฟ  ให้ได้เข้าใจ บางครั้งหยิบกีตาร์ขึ้นมาร้องเพลงดอยสกาด ที่เขาบรรจงแต่งเอง ทั้งเนื้อร้อง และทำนอง เพราะฉะนั้นมาเที่ยวสกาดดี เราจะรู้สึกได้ถึงความเป็นกันเองและมีน้ำใจของเจ้าของบ้าน

ชุดชา กาแฟ ที่ยกมาเสริฟ์สำหรับแขกที่มาเข้าพักจะให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวที่แวะมาเยี่ยมเยือนจะคิดราคาชุดละ 150 บาท มีชากาแฟประมาณ 3 แบบให้ลองดื่มพร้มคุ๊กกี้รสชาติดี ชาของดอยสกาด ผลิตจากใบเมี่ยงที่จัดอยู่ในกลุ่มของชาอัสสัม ใช้วิธีการปลูกแบบออแกนิค บนที่ราบสูง ผสมพืชสมุนไพรท้องถิ่นให้สีชมพู และสีส้ม  เพิ่มความหวานจากธรรมชาติโดยใช้หญ้าหวาน นุ่มนวล  ให้รสชาติอมหวานนิดๆ ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความหอมของสมุนไพรรสชาติ จิบแล้วสดชื่น ชุ่มคอ ใครถูกใจก็ซื้อกลับบ้านได้ ในส่วนของกาแฟนั้นรสชาติจะไม่ขมจนเกินไป  ชัยยินดิ์ อธิบายว่า กาแฟของแท้จะไม่มีรสขมมาก แต่กาแฟขมนั้นอยู่ที่ขั้นตอนการคั่วซึ่งจะมีวิธีการจะแตกต่างกันไปตามแต่ละที่  ถ้าอยากให้ขมหรือเข้มมากก็คั่วนานจนไหม้ ถ้าเข้มน้อยก็คั่วแป๊บเดียว หลายคนมีความเชื่อว่ากาแฟที่ดีต้องขม พอขมก็ทานกันไม่ได้ต้องมีการเติมนม คอฟฟี่แมท น้ำตาล ซึ่งทำให้ไม่ได้ลิ้มรสชาติของกาแฟที่แท้จริง  ถ้าเป็นคอกาแฟจะสังเกตว่าเขาจะนิยมดื่มกาแฟดริปแบบที่ไม่ผสมอะไรเลย  เราลองจิบกาแฟดริปดอยงสกาดดี  มีทั้งแบบคั่วเข้มและแบบอ่อน คำแรกที่ดื่มเข้าไป คือ รสชาติจะไม่เข้มมากออกเปรี้ยวนิดๆ หากใครลองชิมเมล็ดกาแฟจากต้นจะรู้ว่าเมล็ดกาแฟที่แท้จริงจะมีรสชาติหวานแบบผลไม้  ปกติเราไม่ดื่มกาแฟเพราะไม่ชอบรสขมและกลิ่นเข้ม แต่พอได้ทานกาแฟบนดอยสกาดความรู้สึกที่ทีต่อกาแฟดีขึ้นกว่าเดิมมาก มีความละมุน ได้กลิ่นกาแฟเบาๆ รสชาติเหมือนจิบน้ำผลไม้

นอกจากชาจากใบเมี่ยงแล้ว ชาวบ้านบนดอยสกาดมีวัฒนธรรมการเคี้ยวเมี่ยงมาตั้งแต่บรรพษุรุษ ทั้งปลูกเพื่อเก็บกินเอง ส่งขายคนในและนอกพื้นที่  ใบเมี่ยงหมัก จึงกลายอาหารทานเล่นเหมือนเคี้ยวหมาก พลู  รสชาติจะเฝื่อนนิดๆ

มุมระเบียงที่นั่งด้านหน้าซึ่งเป็น จุดไฮไลท์ของสกาดดี ที่ต้องมานั่งชิวมองวิว จิบเครื่องดื่ม ถ่ายภาพ และอีกหนึ่งมุมแปลดูดวิญญาณ ที่ได้นอนปุ๊บ ไกวแปลเบาๆจะหลับไปแบบไม่รู้ตัวในทันที
ห้องพักของดอยสกาดมีทั้งหมด 3 ห้อง  มี 2 ห้องตั้งอยู่ชั้นบนใช้ห้องน้ำรวม และอีก 1 ห้อง ชั้นล่างมีห้องน้ำในตัว ห้องพักๆได้ห้องละ 2 -3 คน ปกติทจะรับนักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มแบบค้างคืนไม่เกิน  10  คน แต่ถ้ามาเป็นกลุ่มย่อยและมีจำนวน  5  คนขึ้นไป ก็จะไม่รับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นเพื่อความเป็นส่วนตัว  วันที่เราไปพักมีนักท่องเที่ยว 2 กลุ่มคือ กลุ่มเรา 3 คน และอีกกลุ่มมี 2 คน เราเลือกพักห้องที่อยู่ชั้นล่างของบ้านมีห้องน้ำในตัว สามารถเปิดประตูห้องไปแล้วเห็นวิวภูเขาหน้าห้อง  ห้องพักคิดราคาเป็นแพคเกจ รวมอาหาร 2 มื้อ  ราคาจะขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่เข้าพัก ถ้ามากันน้อยคนราคาก็จะสูงขึ้น เพราะที่นี่รับนักท่องเที่ยวเข้าพักคนเข้าจำกัด เราไปพัก 3 คน คิดคนละ 1300 บาท

นอกจากกิจกรรมชิมชา พักผ่อนนอนเล่นที่บ้านพักแล้ว สกาดดีมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อย่างเช่น เดินชมหมู่บ้านโดยไกด์ท้องถิ่นระยะทางประมาณ 3 กม.อาจมีให้ค่านำทางน้องๆ นิดหน่อย  และอีกหนึ่งกิจกรรม  คือ ทริปกาแฟกลางไร่กาแฟบนเขาและชมนาข้าวขั้นบันได้บนภูเขา มีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากค่าแพคเกจที่พักอาหาร เป็นค่ารถ โฟรวิวในราคา  1500 บาท   รถโฟรวิวนั่งได้ประมาณ 6-10 คน เราเลือกกิจกรรมอย่างหลังคือ ไปชมไร่กาแฟและนาข้าวกลางหุบเขา  ก่อนไปดริปกาแฟก็พาไปนั่งทานก๋วยเตี๋ยวคุณหลิ่งที่ตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางกลางหมู่บ้าน  เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวราคาหลักสิบวิวหลักพัน เป็นร้านนั่งห้อยขาชมวิวภูเขาที่อยู่เบื้องหน้า

นั่งรถโฟรวิวผ่านเส้นทางที่แอบเสียวนิดๆ ก็มาถึงไร่กาแฟจักษ์กะพัฒน์ ซึ่งอยู่ห่างจากสกาดดี ประมาณ 4 กม. ต้องใช้รถโฟรวิวขับขึ้นไปและต้องชำนานเส้นทางพอสมควร  ไร่กาแฟกลางหุบเขาดอยสะกาดที่สามารถมองเห็นวิวของภูเขาสีเขียวที่เรียงรายกัน กาแฟของไร่เป็นกาแฟสายพันธุ์อาราบิกาซึ่งนิยมปลูกบนภูเขาสูง น้องที่ขับรถโฟรวิวและดริปกาแฟให้เราดื่ม ก็คือ เจ้าของไร่นั่นเอง เป็นอีกหนึ่งหนุ่มไฟแรงที่มีความสำนึกรักในบ้านเกิดกลับมาทำไร่และผลิตกาแฟส่งขายไปยังที่ต่าง กิจกรรมเมื่อมาถึงไร่ก็คือ ศึกษากระบวนการต่างๆ ของกาแฟ ดริปกาแฟ และจิบกาแฟชมวิวภูเขา ดริปกาแฟแบบเดิมโลกไม่จำต้องนั่งรถผ่านเส้นทางออฟโรดมาถึงที่นี่ ซึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับคอกาแฟคงชอบมาก เพราะมีกาแฟแบบต่างๆให้ลองดื่มมากสกาดดีโฮมสเตย์

ราคาแพคเกจเริ่มต้นที่ 800-1500 บาทต่อคน ขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่เข้าพัก  หากมากจำนวนหลายคนก็จะถูกลง  ราคารวมที่พัก 1 คืน อาหาร 2 มื้อ และชา กาแฟ  จำนวน  2 คน คิดราคา คนละ 1500 บาท , จำนวน  3  คน 1300 บาท  , จำนวน 6-7 คนๆละ 800 บาท

กิจกรรมอื่นมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ทริปดริปกาแฟบนภูเขาชมนาข้าว เที่ยวละ 1500 บาทพานำชมหมู่บ้านโดยไกด์ท้องถิ่นให้ค่าใช้ข่ายตามความเหมาะสม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่  โทร 083 084 6411 เฟสบุค คลิ๊ก สกาดดีโฮมสเตย์

การเดินทางหากไม่มีรถส่วนตัวและไม่ได้เช่ารถขับ
สามารถติดต่อโฮมสเตย์ให้มารับในตัวเมืองน่าน หรือปัว คิดราคา 1500-2,500 บาท

รี2

2.สกาด กม.8

เริ่มต้นกันที่ สกาด กม.8 ที่พักยอดฮิตตอบโจทย์ทุกความสะดวกสบาย ด้วยห้องพักทุกห้องมองเห็นวิวภูเขาหลักล้านตกแต่งเรียบง่ายเข้ากับบรรยากาศธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อนที่สำคัญมีแอร์และอ่างอาบน้ำให้แช่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ครบครัน ที่นี่ยังมีร้านกาแฟขึ้นชื่อ ที่ใครผ่านมาก็ต้องแวะจิบกาแฟชมวิว แต่ถ้ามีเวลามาพักสักคืนสองคืน ตอนเช้าตื่นมากินกาแฟ ตกเย็นยังมีบริการชุดหมูกระทะอีกด้วย

ที่อยู่  52 หมู่3 ต.สกาด อ.ปัว จ.น่าน

ราคา  เริ่มต้น 1,200 บาท

โทร  061 215 4163

Facebook   สกาด กม.8

รี3

3.อุ่นไอใบเมี่ยง

อุ่นไอใบเมี่ยง ที่พักหลักร้อยวิวหลักล้าน หลับสบายด้วยแอร์จากธรรมชาติ ตัวบ้านพักเป็นบ้านไม้หลังใหญ่สองชั้นดูคลาสสิค มีระเบียงกว้างให้นั่งเล่น นอนเล่นพร้อมชมวิวภูเขาแบบพาโรนามา มีห้องพักบริการทั้งหมด 6 ห้อง แบ่งเป็น 1 ห้องวีไอพีที่วิวสวยที่สุด จองยากที่สุด กับ 5 ห้อง ธรรมดาที่แบ่งเป็นห้องสำหรับ 2 – 4 คน ตกแต่งเรียบง่าย ภายในที่พักมีเครื่องทำน้ำอุ่น ไดร์เป่าผม ตู้เย็น ไมโครเวฟ รวมถึงกาแฟ โอวันตินให้บริการฟรี มีอาหารเช้าแบบง่ายๆ อย่างข้าวเหนียวหมูทอด ข้าวต้ม ส่วนอาหารเย็นจะสั่งมาหรืออยากทำเองก็ได้

ที่อยู่  358 หมู่ที่ 2 บ้านสกาดกลาง ตำบลสกาดกลาง Pua, Nan 55120

ราคา 700 – 900 บาท / ท่าน

โทร 065 897 8636

Facebook  อุ่นไอใบเมี่ยง

รี4

4.บ้านสวนม่อนสกาด

ใครอยากปลีกวิเวกไม่ชอบความวุ่นวายในหมู่บ้าน แนะนำให้มาพักที่ บ้านสวนม่อนสกาด บ้านสวนหลังขนาดกะทัดรัดตั้งอยู่บริเวณทางโค้งก่อนถึงหมู่บ้าน มาพร้อมวิวหลักล้านกับสายหมอกยามเช้า และความเงียบสงบ เปิดให้บริการห้องพักเพียงแค่ 4 ห้องเท่านั้น เน้นการบริการด้วยใจแบบบ้านๆ เสมือนมาพักบ้านญาติที่ต่างจังหวัด ดูแลกันเหมือนคนในครอบครัว บ้านสวนหลังนี้ใช้ระบบไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ ที่ลูกค้าจะใช้ได้หลังจาก 18.00 น. นอกจากที่นี่จะเปิดบริการห้องพักแล้วยังมีร้านกาแฟอีกด้วย

ที่อยู่ 9/4 บ้านภูกอก ตำบลสกาด อำเภอปัว จังหวัดน่าน 55120

ราคาเริ่มต้น 750 บาท

โทร 089 997 6585

Facebook  บ้านสวนม่อนสกาด