ประเพณีแห่ดาว จังหวัดสกลนคร

ในทุกปลายปีของ วันคริสต์มาส เป็นงานที่ชาวคริสต์มาเฉลิมฉลอง และมอบความรักให้แก่กัน เราจะได้เห็นสถานที่และร้านรวงต่างๆ ประดับตกแต่ง ต้นคริสต์มาส ด้วยไฟสวยงาม

แต่ที่ สกลนคร บ้านท่าแร่ แห่งนี้ มีการเฉลิมฉลองที่ต่างออกไป ซึ่งมีเอกลักษณ์มากๆ คือ เทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส ท่าแร่ งานแห่ดาว สกลนคร ที่จัดขึ้นในทุกๆ ปีก่อนวันคริสต์มาส ตามเรามารู้จัก ที่มา และประวัติ ของ เทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส ที่สวยงามและเปี่ยมไปด้วยศรัทธา แห่งนี้กันได้เลย

ประวัติการแห่ดาว

แห่ดาว

ใกล้ถึงวันสมโภชพระคริสตสมภพ หรือ “วันคริสต์มาส” ของทุกปี เราจะเห็นห้างสรรพสินค้าและร้านรวงต่างๆ ประดับตกแต่ง ต้นคริสต์มาสด้วยไฟหลากสีระยิบระยับ มีภาพชายแก่หนวดเครายาวสีขาวพุงพุ้ยในชุดสีแดงสดใสพร้อมถุงของขวัญบนล้อเลื่อน มีกวางลากจูง คลอด้วยบทเพลงคริสต์มาสในจังหวะสนุกๆ เพื่อดึงดูดผู้คนที่ผ่านไปมา ให้หันมาสนใจและจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าในร้านรวงของตน   บรรยากาศเช่นนี้มีให้เห็นทั่วไปตามเมืองใหญ่ทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทย   แต่ในอีกมุมหนึ่งของหมู่บ้านคริสตชนในภาคอีสานของ ประเทศไทยดูจะต่างออกไป โดยเฉพาะในอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัดคือ สกลนคร นครพนม  กาฬสินธุ์และมุกดาหาร จะมีบรรยากาศของความสมัครสมานกลมเกลียวแบบพี่น้อง ที่ร่วมแรงร่วมใจกันเตรียมฉลองคริสต์มาส  ด้วยการทำดาวและถ้ำพระกุมาร ช่วยกันประดับตกแต่งวัดประจำหมู่บ้านให้สวยงาม รวมถึงบ้านเรือนของตน เพื่อเฉลิมฉลองการประสูติมาของพระเยซูเจ้า   พวกเขาได้สานต่อความเชื่อศรัทธานี้ มามากกว่า 100 ปี จนกลายเป็นประเพณีในคืนวันที่ 24 ธันวาคม ของทุกปี

ความหมายและที่มาของการแห่ดาว

แห่ดาว1

คำว่า “ดาว” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2545 ได้ให้ความจำกัดความเอาไว้ว่า “สิ่งที่เห็นเป็นดวงมีแสงระยิบระยับในท้องฟ้าเวลามืดนอกจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์”  นอกนั้นยังเป็นคำที่ใช้เรียกบุคคลที่เด่นดังในทางใด ทางหนึ่ง ดาวจึงหมายถึง ดวงไฟที่ส่องแสงระยิบระยับบนท้องฟ้าในเวลากลางคืนทำให้ท้องฟ้าแลดูสว่างสุกใส ด้วยเหตุนี้จึงอุปมาคนที่มีชื่อเสียงดี หรือมีหน้าตาสะสวยและความสามารถโดดเด่น เป็นเหมือนดาวบนฟ้าที่ส่องประกายเจิดจ้ายามค่ำคืน อย่างนักแสดงที่เรียกว่า “ดารา” สำหรับชาวตะวันออกเชื่อกันว่าทุกคนเกิดมามีดาวประจำตัว   โดยเฉพาะบุคคลสำคัญที่มีบุญบารมี ดาวประจำตัวจะสว่างสุกใสกว่าปกติสังเกตเห็นได้ง่าย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเวลาที่พระเยซูเจ้าประสูติ   จะปรากฏดาวประจำพระองค์ให้พวกโหราจารย์หรือนักปราชญ์จากทิศตะวันออกได้เห็น พวกเขาได้ออกเดินทางตามดาวดวงนั้นไป เพื่อไหว้นมัสการและถวายของขวัญตามที่มีบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ (มธ 2:1-12) ดังนั้น ดาวในคริสตศาสนา จึงเป็นสัญลักษณ์หมายถึง การบังเกิดมาของพระเยซูเจ้า และเป็นสื่อนำทางพวกโหราจารย์ให้ได้พบกับพระกุมารเยซูในถ้ำเลี้ยงสัตว์ที่เมืองเบธเลเฮม ประเทศปาเลสไตน์ ส่วนประเพณีแห่ดาวในเทศกาลคริสต์มาส มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด  แต่เข้าใจว่าคงมีมาตั้งแต่แรกเริ่มที่คริสตศาสนาเข้ามาในภาคอีสานในปี ค.ศ. 1881 ( พ.ศ. 2424) โดยการนำของ คุณพ่อยอห์น บัปติสต์ โปรดม (Jean PRODHOMME) และคุณพ่อซาเวียร์ เกโก (Xavier GEGO) ธรรมทูตรุ่นบุกเบิกคณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุงปารีส (MEP) ที่สอนให้คริสตชนทำดาวประดับวัดในเทศกาลคริสต์มาส ประกอบกับธรรมชาติของคนอีสานที่ร่าเริงสนุกสนานมีงานประเพณีแห่แหนตลอดทั้งปี

แห่ดาว2

การประยุกต์ประเพณีทำดาวประดับวัดในเทศกาลคริสต์มาส มาเป็นประเพณีแห่ดาวรอบวัดหรือชุมชน จึงเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย ก่อนจะกลายมาเป็นประเพณีนิยมของทุกวัดที่กระทำกันในคืนวันที่ 24 ธันวาคม ของทุกปี การทำดาวประดับวัดของหมู่บ้านคาทอลิก ในอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง ก็เหมือนกับการทำถ้ำพระกุมารและการประดับต้นคริสต์มาสในประเทศยุโรป แต่การทำดาวของวัดต่างๆ
ในอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง ดูจะมีชีวิตชีวาและวิวัฒนาการมากกว่า เห็นได้จากการประยุกต์ให้เข้ากับวัฒนธรรม ท้องถิ่นและวิถีชีวิตของชุมชน จากการทำดาวประดับวัดธรรมดาได้พัฒนาไปเป็นการทำดาวประดับบ้านเรือน การแห่ดาวและการประกวดดาว เพื่อสืบสานความเชื่อศรัทธาอย่างมีสีสันและชีวิตชีวา อันแสดงออกถึงความชื่นชมยินดีของชุมชนตามจิตตารมณ์ของคริสต์มาส

ทำไมต้องมีการแห่ดาว

แห่ดาว3

หลายคนที่ต้องการคำตอบความกระจ่างในเรื่องนี้ ประเพณีแห่ดาวในเทศกาลคริสต์มาสนี้ มีเพียงแห่งเดียวในโลก คือ ที่มิสซังโรมันคาทอลิกท่าแร่-หนองแสง เท่านั้น การแห่ดาว เป็นกิจกรรมในเทศกาลคริสต์มาส เพื่อระลึกเหตุการณ์ที่บรรดาโหราจารย์ได้ติดตาม
ดาวประหลาดดวงหนึ่ง เพื่อไปพบสถานที่ประสูติของพระเยซูเจ้าที่แบธเลเฮม และถือกันว่าดวงดาวคือสัญลักษณ์แห่งการประสูติของพระเยซู

ประเพณีแห่ดาว ในเทศกาลคริสต์มาส ของบ้านท่าแร่ จังหวัดสกลนครแห่งนี้ เรียกได้ว่า มีเพียงแห่งเดียวในโลกเลยทีเดียวค่ะ “การแห่ดาว” ของชาวบ้านที่นี่เป็นการรำลึกถึงการประสูติของพระเยซู

ตามคัมภีร์ไบเบิ้ล ได้มีเหตุการณ์ปรากฏดาวประจำพระองค์ขึ้น พวกโหราจารย์ หรือนักปราชญ์จากทิศตะวันออกได้เห็น และเดินทางตามดาวดวงนั้นไป เพื่อไปพบสถานที่ประสูติของพระเยซูที่ แบธเลเฮม และถวายของขวัญ ตามที่มีบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ จึงถือกันว่า “ดวงดาว” คือ สัญลักษณ์แห่งการประสูติของพระเยซู และเป็นสื่อนำทางพวกโหราจารย์ให้ได้พบกับพระกุมารเยซูในถ้ำเลี้ยงสัตว์

และแน่นอนว่า เทศกาลไฮไลท์ที่จัดขึ้นทุกปีซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของบ้านท่าแร่แห่งนี้คือ เทศกาลแห่ดาวคริสต์มาส โดยจัดแสดงขึ้นในเดือนธันวาคมของทุกปีช่วงวันคริสมาสต์นั่นเอง

แห่ดาว4

ภายในงาน ชาวบ้านจะตกแต่งบ้านเรือน ประดับประดาอย่างสวยงาม และจะมี ขบวนรถแห่ดาว ซึ่งประดับไฟหลากสี มากกว่า 200 คัน ที่สวยงามอลังการมากๆ เป็นขบวนแห่ไปตามถนนในหมู่บ้าน เพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู ศาสดาแห่งศาสนาคริสต์ นั่นเอง

ในช่วงค่ำคืนของ วันที่ 23 ธันวาคม ชาวบ้านก็จะตกแต่งโคมไฟรูปดาวไว้ที่หน้าบ้าน และจะมี รถขบวนแห่ดาวใหญ่ จากชุมชนทั้ง 15 ชุมชนของเทศบาลตำบลท่าแร่ ที่ตกแต่งรถดาวใหญ่ ประดับประดาอย่างวิจิตรงดงาม พร้อมกับเพลงคริสต์มาส แห่งความสุข และซานตาคลอสที่คอยมอบลูกอมให้กับคนที่ผ่านไปมา และนักท่องเที่ยว เป็นงานที่สนุกสนาน รื่นเริง และเต็มไปด้วยคามศรัทธา

สำหรับในคืนของ วันที่ 24 ธันวาคม จะมี พิธีแห่ดาวเล็ก แบบดั้งเดิม รอบ อาสนวิหารอัครมีคาแอล ท่าแร่ ก่อนที่จะเข้าวัด ชมการแสดงละครเทวดา “การกำเนิดของพระเยซูกุมาร” และประกอบพิธีมิสซาเนื่องในวันคริสต์มาส

ที่พัก
1.The Room Boutique Hotel – Sakon Nakhon โรงแรมเดอะรูม บูติก โฮเทล สกลนคร

The room

“โรงแรมใหม่ สะอาด เงียบ ห้องกว้างขวาง ใกล้ตลาด ไปมาธุระในเมืองสะดวกมาก”

ข้อมูลติดต่อและที่อยู่

888 ซ 10 ถ ถ. สุขเกษม อำเภอเมืองสกลนคร สกลนคร 47000

099 262 9269

2.โรงแรม โอทู สกลนคร (O2 Hotel sakonnakhon)

O2สกล

“ที่พักสะอาดครับ เน็ตแรง น้ำแรง แอร์เย็น ใกล้ของกิน”

ข้อมูลติดต่อและที่อยู่

422 ถ. นิตโย ธาตุเชิงชุม เมือง สกลนคร 47000

083 874 6524

3.pimulanohotel

Pimu

“โรงแรมสไตล์ Vintage ดูดี มีอ่างน้ำขนาดใหญ่ ราคาไม่แพงคุ้มค่าเลย”

ข้อมูลติดต่อและที่อยู่

114หมู่8 ท่าแร่ เมือง สกลนคร 47230

042 090 329