พระมหาเจดีย์ชัยมงคล จังหวัดร้อยเอ็ด

พระมหาเจดีย์ชัยมงคล

เมื่อมาถึงร้อยเอ็ด หากไม่มาสักการะ พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ก็ถือว่ามาไม่ถึง เพราะเป็นมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ที่มีความสวยงาม และวิจิตรเป็นอย่างมาก

ตั้งอยู่บนยอดภูเขาเขียว แนวเทือกเขาภูพาน หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันในชื่อ ผาน้ำย้อย นอกจากนั้นยังมีการใช้ศิลปกรรมร่วมสมัยผสมผสานระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน สวยงามอลังการ ทำให้ผู้คนที่มามีความรู้สึกราวกับว่าอยู่บนแดนสวรรค์เลยทีเดียว

พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ตั้งอยู่บริเวณวัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วรารามตำบลผาน้ำย้อยอำเภอหนองพอกจังหวัดร้อยเอ็ด มีลักษณะ เป็นมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ที่วิจิตรพิสดาร ใช้ศิลปกรรมร่วมสมัยระหว่างภาคกลางและภาคอีสานเป็นการผสม กันระหว่างพระปฐมเจดีย์ และพระธาตุพนม ใช้งบประมาณก่อสร้างถึงปัจจุบันกว่า 3,000 ล้านบาท ดำเนินการสร้างโดย “พระอาจารย์ศรี มหาวิโร” ซึ่งเป็นศิษย์ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ออกแบบโดยกรมศิลปากรเป็นสีขาวตกแต่งลวดลาย ตระการตาด้วยสีทอง เหลือง อร่าม รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ทิศ สร้างในเนื้อที่ 101 ไร่ กว้าง 101 เมตร ยาว 101 เมตร ความสูง 101 เมตร รวมยอดทองคำ เป็น 109เ มตร ใช้ทองคำหนัก 4,750 บาท หรือประมาณ 60 กิโลกรัม ภายในองค์พระมหา เจดีย์เหมือนอยู่บน วิมานแดนสวรรค์

Jd

ชั้นที่ 1 เป็นห้องโถงกว้างใหญ่ โอ่อ่า ผนังจารึกนามทานาธิบดีต่าง ๆ ใช้เป็นห้องประชุม บำเพ็ญบุญ
ชั้นที่ 2 เป็นห้องโถงโอ่อ่าเช่นกัน ผนังติดตั้งรูปพระพุทธประวัติ ลวดลาย ไทยวิจิตรพิสดาร
ชั้นที่ 3 เป็นที่ประดิษฐานรูปพระณาจารย์ ปราชญ์ อีสานในอดีต เป็นรูปเหมือนสลักหินอ่อน และหุ่นรูปเหมือนพระสุปฏิปันโน 101 องค์
ชั้นที่ 4 จัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงวัดวาอาราม สถานปฏิบัติสมถะวิปัสสนา กรรมฐานที่หลวงปู่ศรีเคยบำเพ็ญธรรมมา
ชั้นที่ 5 บันไดเวียน 119 ชั้น เป็นห้องโถงรูประฆัง 8 เหลี่ยมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

พระเจดีย์นี้สร้างมานานกว่า 18 ปี จนปัจจุบันนี้ยังสร้างไม่เสร็จ ชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีกธาตุและพระสาวก

Jd1

พระมหาเจดีย์ชัยมงคล นั้นได้เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2528 มีเนื้อที่ 2,500 ไร่ เนื่องด้วยในวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2528 ซึ่งเป็นวันรวมกฐินสามัคคีของวัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) พระเทพวิสุทธิมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร) ได้ปรารภกับที่ประชุมสงฆ์และคณะศิษยานุศิษย์ว่าท่านได้รับพระบรมสารีริกธาตุ มาเป็นกรณีพิเศษ แต่ยังไม่มีที่ประดิษฐานอันเหมาะสม น่าจะหาสถานที่ก่อสร้างพระมหาเจดีย์ไว้สำหรับเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรม สารีริกธาตุ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอยให้จัดสร้างพระมหาเจดีย์ขึ้นที่เทือกเขาเขียว บริเวณใกล้กับวัดถ้ำผาน้ำทิพย์ (วัดผาน้ำย้อย)

ครั้นต่อมาเมื่อมีการประชุมพระสังฆาธิการภาค 8-9-10-11 (ฝ่ายธรรมยุต) ที่วัดถ้ำผาน้ำทิพย์ หลวงปู่ศรี มหาวีโร ได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุม ซึ่งมีท่านเจ้าประคุณสมเด็จมหามุนีวงศ์ (สนั่น จนฺทปชฺโชโต) เป็นประธานที่ประชุมได้มีมติให้หลวงปู่ศรี มหาวีโร เป็นผู้นำในการก่อสร้าง และได้ให้ใช้ชื่อว่าพระมหาเจดีย์ชัยมงคล โดยทุนเริ่มแรกที่ใช้ในการเริ่มก่อสร้างได้มาจากการจัดให้มีการทอดผ้าป่า ทั่วภาคอีสาน 19 จังหวัด โดยการจัดในครั้งแรกนี้ได้จัดผ้าป่า เป็นจำนวน 84,000 กอง กองละ 1,000 บาท รวมเป็นจำนวนเงิน 84 ล้านบาท เป็นทุนเริ่มต้นและได้จัดให้มีการทอดผ้าป่า เป็นประเพณีตลอดมาอีกทุกๆ ปี

Jd2

พระมหาเจดีย์ชัยมงคลได้ออกแบบก่อสร้างโดยกรมศิลปากร เป็นศิลปะผสมผสานของศิลปะแบบอีสาน และศิลปะแบบไทยภาคกลาง เริ่มก่อสร้างวางศิลาฤกษ์และลงเสาเอกเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2531
เมื่อดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างในส่วนต่างๆ แล้วเสร็จใน วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 ได้จัดให้มีการทำพิธียกยอดฉัตรที่สร้างด้วยทองคำ น้ำหนักรวม 60 กิโลกรัม

ต่อมาในวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของหลวงปู่ศรี มหาวีโร ได้ทำพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุองค์ที่หลวงปู่ได้รับมาเป็นกรณีพิเศษ และองค์ที่หลวงปู่ได้รับมาจากสมเด็จพระสังฆราชของประเทศศรีลังกา รวทั้ง องค์ที่สมเด็จพระสังฆราชของประเทศศรีลังกาได้อัญเชิญเสด็จมาส่งให้ด้วย พระองค์เอง อัญเชิญขึ้นประดิษฐาน ณ พระมหาเจดีย์ชัยมงคลบนชั้นที่ 6 เพื่อให้พุทธศาสนิกชนทุกคนได้สักการะนมัสการเป็นสิริมงคลของตนตลอดไป

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2548 สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงประกาศตั้งเป็นวัดขึ้นในพระพุทธศาสนา มีนามว่า วัดเจดีย์ชัยมงคล

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2548 ได้มีการแต่ตั้งให้พระครูปลัดทองอินทร์ (หลวงพ่ออินทร์ กตปุญโญ) เป็นเจ้าอาวาสวัดเจดีย์ชัยมงคล

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2549 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานวิสุงคามสีมา ประกาศราชกิจจานุเบกษาฉบับประกาศทั่วไป เล่มที่ 123 ตอนที่ 44 วันที่ 27 เมษายน 2549

Jd3

วัตถุประสงค์ในการก่อสร้าง เพื่อเป็นศูนย์กลางของการฝึกอบรมการปฏิบัติวิปัสนากรรมฐาน โดยการปฏิบัติจริงตามแนวทางขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นที่ตั้งของรูปเหมือนแกะสลักด้วยหินของพระเถรานุเถระของภาคอีสาน จำนวน 101 องค์ พร้อมทั้งประวัติของท่าน และภาพพุทธประวัติ ภาพทศชาติชาดก

สิ่งก่อสร้างที่สำคัญในบริเวณวัดเจดีย์ชัยมงคล
1. กำแพงแห่งศรัทธา ซึ่งหลวงพ่ออินทร์เป็นผู้นำคณะศิษยานุศิษย์ทำการก่อสร้างถวายบูชาคุณหลวงปู่ ศรี มหาวีโร เริ่มก่อสร้างวันที่ 8 พฤษภาคม 2540 แล้วเสร็จน้อมถวายในวันที่ 3 พฤษภาคม 2546 ตัวกำแพงสูง 5 เมตร กว้าง 4 เมตร ยาว 3,500 เมตร ชั้นบนเดินชมวิวได้โดยรอบ ชั้นล่างเป็นที่ปฏิบัติธรรม มีห้องน้ำ 1,000 ห้อง
2. เจดีย์บรมพุทโธ (บูโรบูโด) จำลอง ซึ่งชาวพุทธจากประเทศอินโดนีเซีย จัดสร้างและส่งทีมงานช่างมาติดตั้งถวายเป็นพุทธบูชา
3. ตำหนักรับรองสมเด็จพระสังฆราช
4. กุฏิรับรองหลวงปู่ศรี มหาวีโร
5. โรงทานขนาดใหญ่ 3 หลัง

ภายในบริเวณพระมหาเจดีย์ชัยมงคล เป็นพระเจดีย์ที่ใหญ่องค์หนึ่งของประเทศไทย ออกแบบโดยกรมศิลปากร โดยใช้ศิลปกรรมร่วมสมัยระหว่างภาคกลางและภาคอีสานอันเป็นการผสมผสานกัน ระหว่างศิลปะแห่งพระปฐมเจดีย์และพระธาตุพนม พระเจดีย์เป็นสีขาวตกแต่งลวดลายตระการตาด้วยสีทองเหลืองอร่าม รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ทิศ มีความกว้าง 101 เมตร ความยาว 101 เมตร ความสูง 101 เมตร สร้างในเนื้อที่ 101 ไร่ อันมาจากชื่อของจังหวัดร้อยเอ็ด ยอดทองคำใช้ทองคำหนักถึง 60 กิโลกรัม

การเดินทาง ไปตามเส้นทางสายร้อยเอ็ด-อำเภอโพนทอง-อำเภอหนองพอก ระยะทาง 62 กิโลเมตร จากตัวเมืองร้อยเอ็ด ตามทางหลวงหมายเลข 2044 และ 2136

ที่พัก
1.สไมล์โมเดิร์นลอฟท์
พระมหาเจดีย์ ชัยมงคล • อยู่ห่างออกไป 12.3 กม.

สมายล์

“บรรยายกาศดีเงียบสไตล์บ้านนา”

ข้อมูลติดต่อและที่อยู่

273 ม .1 ต ตำบล รอบเมือง อำเภอ หนองพอก อำเภอ หนองพอก

088 331 5296

2.ปลายเทียนวิลล่ารีสอร์ท
พระมหาเจดีย์ ชัยมงคล • อยู่ห่างออกไป 14 กม.

ปลาย

“ห้องสะอาดดี ราคาไม่แพง อยู่แถวปั๊ม ปตท. ใน อ.หนองพอก”

ข้อมูลติดต่อและที่อยู่

215 หมู่ 2, ตำบล หนองพอก อำเภอ หนองพอก ร้อยเอ็ด 45210

081 622 9879

3.Thai House Isaan Guesthouse Mukdahan

พระมหาเจดีย์ ชัยมงคล • อยู่ห่างออกไป 19.6 กม.

ไทยเฮ้าส์

รักเลย❤️👍. สัมผัสความเป็นไทยแท้และอาหารเลิศรส

ข้อมูลติดต่อและที่อยู่

11-m10 Ban Kham Phok Non Yang, Nong Song, Mukdahan, Nong Song, 49160

090 843 2970