โรงแรม Elizabeth Hotel มีไม่บ่อยหรอกครับที่เราจะรีวิวโรงแรมในกรุงเทพฯ (ก็เราคือ “หนีงานไปเที่ยว” นี่นะ) แต่สำหรับ Elizabeth Hotel (อลิซาเบธ โฮเทล) เรานับเป็นกรณีพิเศษ เพราะโรงแรมนี้มีความน่าสนใจหลายอย่างให้พูดถึง ทั้งทำเล ความคุ้มค่า และการรักษาตัวตนเอาไว้ได้ตลอด 30 ปี วันนี้เราจึงอยากแนะนำโรงแรมนี้ให้ทุกคนได้รู้จักครับ
Elizabeth Hotel (อลิซาเบธ โฮเทล) เป็นโรงแรมคลาสสิคตกแต่งสไตล์ยุโรป ตั้งอยู่บนถนนประดิพัทธ์ เดินทางสะดวก มีที่จอดรถที่รองรับได้ถึง 100 คัน มีสระว่ายน้ำ ห้องอาหาร ห้องประชุม – สัมมนา (รวม 5 ห้อง) เรียกได้ว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบครัน
ในส่วนของทำเลนั้นจัดว่าดีมาก ใกล้สถานี BTS สะพานควาย (ห่างแค่ 800 เมตร) ใกล้ซอยอารีย์ ใกล้สวนจตุจักร ใกล้โรงพยาบาล และใกล้สถานที่ราชการหลายแห่ง (เรียกว่าใกล้ที่นั่น ที่นี่ไปซะหมด) ย่านสะพานควายจัดว่าเป็นย่านที่มีของอร่อยเยอะมาก มาพักย่านนี้อิ่มหมีพีมันกันแน่นอน
จุดเด่นของ Elizabeth Hotel
เป็นโรงแรมคลาสสิค ตกแต่งสไตล์ยุโรป มีความวินเทจย้อนยุคไม่ซ้ำใคร เพราะรักษาสภาพโรงแรมให้ยังดูดีเหมือนเมื่อ 30 ปีก่อนได้เป็นอย่าดี ใครอยากรู้ว่าโรงแรมในยุคคุณแม่ยังสาวหน้าตาเป็นยังไง แวะมาดูที่นี่ได้ หรือถ้าอยากได้โลเคชั่นย้อนยุคสำหรับถ่าย MV ถ่ายภาพ ถ่ายหนัง-ละคร มาที่นี่ไม่ผิดหวังครับ
คุ้มค่ากว่าการเข้าพักโฮสเทลในละแวกเดียวกัน ด้วยค่าที่พักประมาณ 1,000 บาท/คืน คุณได้ห้องพัก + ห้องน้ำส่วนตัว (มีอ่างอาบน้ำ) มีมื้อเช้าสำหรับ 2 ท่าน, มีบริการ wifi มีที่จอดรถ
มีวงดนตรีเล่นสด เพลงยุค 70’s, 80’s, 90’s ให้ฟังทุกวัน (นักดนตรีรุ่นลายคราม) ที่ห้องอาหารของโรงแรม อยากฟังเพลงยุคนั้นต้องแวะมาที่นี่ หรือจะพาญาติๆ มาระลึกความหลังก็ได้นะ ^^
มีอาหารสูตรพิเศษของทางโรงแรม (สูตรโบราณ 30 ปี) มีเมนูอร่อยๆ หลายจาน แต่ที่อยากแนะนำให้มาลองคือ “ราดหน้าทะเลเส้นกรอบ” จานนี้เป็นสูตรที่ส่งต่อกันมากว่า 30 ปี ราคาไม่แพง แวะมาทานแล้วจะติดใจ
ทำเลดีมากๆ เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า BTS เพียง 800 เมตร จะมาเข้าพักเพื่อไปทำธุระหรือท่องเที่ยวใน กทม. ก็สะดวกมาก
Elizabeth Hotel (อลิซาเบธ โฮเทล) มีห้องพักทั้งหมด 275 ห้อง แบ่งเป็น 5 Room Type ได้แก่ Superior, Deluxe, Super Deluxe, Junior Suite และ Executive Suite
เดิมห้องพักทั้งหมดของ Elizabeth Hotel (อลิซาเบธ โฮเทล) จะเป็นสไตล์คลาสสิคดั้งเดิม แต่ปัจจุบันมีการ Renovate ห้องพัก Super Deluxe ให้ดูทันสมัยขึ้น เพื่อเป็นตัวเลือกให้ลูกค้าในกรณีที่อยากได้ห้องพักในบรรยากาศที่เป็นปัจจุบัน
ห้อง Super Deluxe (ซุปเปอร์ดีลักซ์)
ห้องนี้ตกแต่งเน้นโทนสีขาวตัดกับสีม่วงของผ้าม่าน บรรยากาศดูคลีนๆ มินิมอลเบาๆ ภายในห้องมีโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกระจกบานใหญ่ (จะใช้เป็นโต๊ะทำงานก็ได้นะ) มีชุดโต๊ะกาแฟ (พร้อมเก้าอี้) พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เช่น โทรศัพท์ ตู้เซฟ ตู้เย็นพร้อมมินิบาร์ น้ำดื่ม กาต้มน้ำ ชุดชา-กาแฟ ตู้เสื้อผ้า และสลิปเปอร์
ห้อง Superior (ซูพีเรีย)
เป็นห้องพักขนาดเล็กสุดของโรงแรม การตกแต่งเป็นสไตล์คลาสสิคดั้งเดิมเหมือนเมื่อ 30 ปีก่อน โทนสีห้องเป็นสีขาวตัดกับสีน้ำตาลแดงของเฟอร์นิเจอร์และผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์และข้าวของเครื่องใช้ในห้องทุกอย่าง อาทิ โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เย็น โซฟา พัดลมระบายอากาศ ตู้เสื้อผ้า ตู้เซฟ ล้วนเป็นของโบราณทั้งสิ้น!! (แต่แอร์ไม่ใช่แอร์เก่านะครับ สบายใจได้)
ห้อง Executive Suite (เอ็กเซคคิวทีฟสวีท)
ถ้ามาพักกันเป็นครอบครัวหรือมากันหลายๆ คน เราแนะนำห้อง Executive Suite ครับ ห้องนี้เข้าพักได้ 4 คน พื้นที่กว้างขวาง มี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ 1 ห้องนั่งเล่นใหญ่ พร้อมโซฟาและโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่
ห้องอาหาร Saint Coffee Shop
ห้องอาหารหลักของโรงแรมคือที่นี่ครับ Saint Coffee Shop เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง (มื้อเช้าก็ทานที่นี่นะ) การตกแต่งยังคงความเป็นยุโรปคลาสสิคเหมือนตั้งแต่เริ่มสร้างโรงแรม ผนังลายหินอ่อน หน้าต่างบานโค้ง พัดลมเพดาน ผ้าม่าน โคมไฟ โซฟา โต๊ะ-เก้าอี้ ล้วนได้รับการดูแลให้อยู่ในสภาพดี เหมือนเราได้นั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลาไปเมื่อ 30 ปีก่อนเลยล่ะ